สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง รายงานสภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2567 พบว่า เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปล่าสุดอยู่ที่ 0.83% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.52%
ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 อยู่ที่ 63.5% ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561
สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 2.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ “พรชัย ฐีระเวช” ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนที่ผ่านมาได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง
โดยเดือน ก.ค. 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวมจำนวน 3.10 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 24.6%
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และ สปป.ลาวตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยในเดือนกรกฎาคม 2567 จำนวน 22 ล้านคน
ขณะที่การส่งออกสินค้าที่กลับมาขยายตัวได้ในระดับสูง มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐในเดือนกรกฎาคม 2567 อยู่ที่ 25,720.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 15.2%
เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้าโดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นในตลาดอินเดีย สหรัฐฯ อาเซียน และจีน
สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 89.3 จากระดับ 87.2 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในประเทศในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและยา
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยกดดันจากกำลังซื้อผู้บริโภคยังอ่อนแอจากปัญหาหนี้สินที่เร่งตัวขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะมีสัญญาณดีขึ้นจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนที่กลับมาขยายตัวได้ดี แต่ปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ยังคงชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เช่นเดียวกับปริมาณจดทะเบียนใหม่ของรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์
“ปริมาณรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่เดือน ก.ค. ลดลง 9.7% และปริมาณจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ลดลง 3.7% เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 57.7 จากระดับ 58.9 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น”
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney