งานไทยแลนด์โฟกัสคึก ผู้ลงทุนสถาบันจากทั่วโลกเข้าร่วมงานรับฟังความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นและทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน 112 บริษัท ร่วมให้ข้อมูลสร้างความเชื่อมั่น ผู้จัดการตลาดหุ้นเผยต่างชาติยังคงสนใจธุรกิจที่เป็นจุดแข็งประเทศและบริษัทที่ดำเนินธุรกิจยั่งยืน รวมทั้งธุรกิจที่เป็น New Economy มั่นใจปลุกความเชื่อมั่นผู้ลงทุนต่างชาติได้
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า การจัดงาน Thailand Focus 2024 ปีนี้ได้การตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก เข้าร่วมงานประมาณ 178 ราย จากกลุ่มประเทศหลัก ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และสวีเดน รับฟังความพร้อมและศักยภาพของตลาดทุนและเศรษฐกิจไทย จากผู้บริหาร ระดับสูงภาครัฐและภาคเอกชนไทย สร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดความสนใจลงทุนในประเทศไทย โดยมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน จำนวน 112 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมร่วมให้ข้อมูลความแข็งแกร่งของธุรกิจและทิศทางการเติบโตผ่านการประชุมทั้งรูปแบบ one-on-one และ group meeting
นายภากร กล่าวว่า คาดว่างานนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น และเชื่อมโยงโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างชาติโดยได้มีการนำเสนอให้เห็นถึงการปรับตัวและก้าวไปข้างหน้าของภาครัฐ ภาคตลาดทุน รวมถึงภาคเอกชนไทย โดยได้รับเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐ นำโดยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เป็นประธานเปิดงานและให้ข้อมูลถึงนโยบายและโครงการภาครัฐที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยสู่การเติบโตในอนาคตและนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มากล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทย รวมถึงสถานการณ์ด้านสินเชื่อในภาคการเงิน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงในวงการธุรกิจและตลาดทุนที่ให้ข้อมูลการปรับตัวของตลาดทุนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ปรับตัวต่อยอดจากจุดแข็งของประเทศไทย และศักยภาพในการที่จะคว้าโอกาสจากบริบทใหม่ของโลก
นอกจากนี้ ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯมีผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนกับตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช่น หุ้นไทยที่ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์และหุ้นสิงคโปร์ที่มาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย โดยตอนนี้มีตราสารแสดงสิทธิในหุ้นหรือหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) ทั้งหมด 45 ตัวที่ซื้อขายในตลาดหุ้นไทย และในอนาคตจะมี DR หุ้นไทยที่ไปจดทะเบียนตลาดต่างประเทศมากขึ้น
“ภายในงานพบว่า ผู้ลงทุนต่างชาติยังให้ความสนใจและติดตามการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย ทั้งการขับเคลื่อนนโยบายที่มีอยู่เดิมให้ เดินหน้าและแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตที่จะส่งผลต่อการลงทุนและการเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย ส่วนการประชุมร่วม ระหว่างบริษัท จดทะเบียนกับผู้ลงทุนสถาบัน ยังคงได้รับความสนใจ ล้นหลาม ทั้งบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในภาคธุรกิจที่เป็นจุดแข็งของประเทศและบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมถึงการก้าวเข้าสู่ ธุรกิจที่เป็น New Economy” นายภากรกล่าว
ด้านนายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า หลังการจัดงาน คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะมีมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เนื่องจากมีสัญญาณบวกที่ชัดเจน ทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) งวดไตรมาส 2/67 และกำไรบริษัทจดทะเบียนที่กลับมาเติบโตดี รวมถึงหากธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยคาดว่าน่าจะส่งผลดีต่อตลาดประเทศเกิดใหม่ รวมถึง ไทยด้วย ขณะที่ประเมินว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตดีต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ตามแนวโน้มการขยายตัวของจีดีพีไทย ที่คาดว่าช่วงครึ่งปีหลัง จะโตดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เพราะปกติแล้วกำไร บจ.มักเติบโตกว่าจีดีพี ราว 2-3 เท่า ปลุกความเชื่อมั่นลงทุนไทย.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่