“เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” 2 แสนล้าน! เขย่า “ราคาที่ดิน” ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสนอขาย 1ล้าน/ตร.ว.

กลายเป็นข่าวโด่งดัง ฮือฮา ตลอดหลายวันที่ผ่านมา สำหรับ การประกาศ เปิดแนวคิด พัฒนา Entertainment Complex ภายใต้ชื่อ The Royal Siam Haven มูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 1.2 พันไร่ ซึ่งราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย กรรมการบริหาร ที่รู้จักในนาม สนามม้านางเลิ้ง อยู่ระหว่างพิจารณา หาทำเลทอง

โดยระบุว่า โปรเจกต์นี้ จะประกอบไปด้วย สนามม้า คลับเฮาส์ สนามกอล์ฟ ยอชต์คลับ โรงแรมระดับ 6 ดาว สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ภัตตาคารหรู โรงละคร เวลเนสเซ็นเตอร์  เรื่อยไปจนถึง กาสิโน ที่อยู่ระหว่าง รอกฎหมาย ผ่านการร่วมลงทุน กับบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ RSC และมีการพูดถึง การเชิญพันธมิตรต่างชาติ  เช่น เกาหลี อเมริกา และ จีน มาร่วมลงทุนด้วย 

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลปรากฎออกมาภายหลัง ว่า 3 ทำเลทองที่เจ้าของโปรเจกต์ เล็งไว้ ประกอบไปด้วย 

• ที่ดินหนองจอกขนาด 1,000 ไร่
• ที่ดินลาดกระบัง ขนาด 2,000 ไร่ 
• ท่าเรือคลองเตยขนาดกว่า 2,300 ไร่

ซึ่งทำเลทอง ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ พื้นที่ท่าเรือคลองเตย โดยมีศักยภาพตรงตามสเปก ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นที่กลางเมือง เดินทางสะดวก และ ไม่ห่างไกลจากสนามบิน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยคาด เมื่อหาผู้ร่วมลงทุนได้ครบ The Royal Siam Haven จะเริามก่อสร้างช่วงปลายปี 2568 เป็นต้นไป 

ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา แรร์ไอเทม ที่ใครๆก็อยากลงทุนอสังหาฯ

ล่าสุด กูรูด้านอสังหาริมทรัพย์ “ภัทรชัย ทวีวงศ์” ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัทคอลลิเออร์ส ประเทศไทย ให้ข้อมูลกับ ThairathMoney ว่า ที่ผ่านมา พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทำเลที่โดดเด่นและมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากทำให้ผู้พัฒนารายใหญ่หลายรายพยายามมองหาที่ดินศักยภาพเพื่อนำมาพัฒนาโครงการ เพื่อตอบสนองความต้องการของกำลังซื้อที่ค่อนข้างสูง

เช่น AWC หรือ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) ปิดดีลเช่าที่ดิน ล้ง 1919 ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามกับตลาดน้อย มีเนื้อที่เช่า 8 ไร่กว่า เป็นระยะเวลา 64 ปีเศษ ค่าเช่า 1,269ล้านบาท 

ขณะในอดีต “ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา” เป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับ 5 ดาว เพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสัมผัสกับความเป็นไทยแบบเต็มๆ ผ่านวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา

หลังจากนั้นจึงเริ่มมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นบ้างเป็นบางทำเล โดยพบว่า ณ ครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2567 บริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีการพัฒนาคอนโดมิเนียมแล้วกว่า 30,000  ยูนิต โครงการพื้นที่ค้าปลีกอีกมากกว่า 900,000 ตารางเมตร และโรงแรมโดยเฉพาะโรงแรมระดับ Luxury มากกว่า 5,000 ห้องพัก 

แผนสร้างกาสิโนแห่งใหม่ ดันราคาที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา พุ่งสูงสุด 1 ล้านบาท/ตร.ว.

ทั้งนี้ หลังปรากฎกระแสข่าว แผนการลงทุนโครงการ The Royal Siam Haven โดยกรรมการบริหาร ราชตฤณมัยฯ เพื่อพัฒนา เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex)

ชี้ชัดทำเล ว่าจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาดพื้นที่ 2,353 ไร่ ด้วยเงินลงทุนมหาศาลนั้น ยิ่งกลายเป็นเป็นปัจจัยบวกให้ราคาที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับราคาที่ดินบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงที่ผ่านมา ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร  คอลลิเออร์ส ประเทศไทย พบว่า   มีการปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก สำหรับราคาซื้อขายที่ดินในพื้นที่ริมถนนเจริญนครในช่วงก่อนปี 2554 อยู่ที่ประมาณ 100,000 – 200,000 บาทต่อตารางวา 

ต่อมาในปี 2554 อยู่ที่ประมาณ 265,000 บาทต่อตารางวาหรือปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 32.2% จากในปีก่อนหน้า แต่พบว่าในปี 2557 ที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีการซื้อขายไปที่ราคาประมาณ 450,000 บาทต่อตารางวา หรือปรับขึ้นมามากกว่า 70% จากปี 2554  

โดยพบว่าที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาริมถนนเจริญนครอาจจะปรับขึ้นไปค่อนข้างมาก แต่ถ้าเป็นที่ดินที่ไม่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาอาจจะมีการปรับขึ้นมาน้อยกว่า โดยราคาขายของที่ดินที่ไม่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในช่วงประมาณ 300,000 – 400,000 บาทต่อตารางวาขึ้นอยู่กับขนาดที่ดิน และทำเล รวมทั้งทางเข้า-ออก  

อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร  คอลลิเออร์ส ประเทศไทย พบว่า  ล่าสุด ที่ดินติดแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีศักยภาพปัจจุบันบางแปลง มีราคาเสนอขายมากกว่า 1 ล้านบาทต่อตารางวาแล้ว

เชื่อ “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ปลุกทำเลทอง บูมขึ้นอีก

จากข่าวแผนพัฒนา “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” โดยทีมสนามม้านางเลิ้งนั้น คาดว่า จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับราคาที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา มากขึ้นไปอีก 

เพราะแม้ที่ผ่านมา ทำเลที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม แต่ก็มีข้อด้อยที่สำคัญคือ ทำเลที่ตั้งที่อาจจะไกลจากระบบขนส่งมวลชนระบบราง ไม่สามารถเปรียบเทียบกับคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ที่อยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในตามแนวรถไฟฟ้าได้ 

จึงต้องมีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ เช่น สร้างพื้นที่ค้าปลีกมาสนับสนุน หรือสร้างแรงดึงดูดใจคนซื้อโดยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยผสมผสานกับโรงแรมเพื่อให้ผู้ที่ซื้อคอนโดมิเนียมสามารถปล่อยเช่ายูนิตของตนเองผ่านโรงแรมในโครงการได้ อีกทั้งการที่มีผู้ให้บริการโรงแรมมาเป็นผู้บริหารพื้นที่ส่วนกลางก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการได้เช่นกัน โดยโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ก็มีลักษณะแบบนี้ทุกโครงการเช่นกัน 

ที่มา : คอลลิเออร์ส ประเทศไทย

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney