ระดมช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทั้งเชียงราย น่าน แพร่ พะเยา และภูเก็ต โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (War Room) เพื่อประสานการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับระยะต่อไปจะออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาครอบคลุมทุกมิติ ทั้งฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยวที่เสียหาย ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ปลอดภัย และสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว “การดูแลนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในช่วงวิกฤตินี้เป็นสิ่งที่กระทรวงให้ความสำคัญอย่างยิ่ง พร้อมขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย”

ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน โดยมาตรการพักหนี้ จะพักชำระเงินต้น 3 เดือน จ่ายดอกเบี้ยครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกครึ่ง จะลดให้เป็นเวลา 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท ไม่รวมลูกค้าสินเชื่อแก่ลูกหนี้ตามธุรกรรมนโยบายรัฐ (PSA) หรือโครงการผ่อนปรนอื่นๆ

ส่วนผู้ประสบภัยที่จำเป็นต้องใช้เงินกู้ฉุกเฉินยื่นขอสินเชื่อได้ 2 ประเภท คือ สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ผ่านเกณฑ์อนุมัติ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายดำรงชีวิตประจำวัน หรือฟื้นฟูอาชีพ ไม่ต้องมีหลักประกันและผู้ค้ำประกัน วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 10,000 บาท ผ่อนชำระไม่เกิน 15 เดือน และสินเชื่อเคหะแก่ผู้ประสบภัย สำหรับลูกค้าเดิมและประชาชนทั่วไปที่บ้านเรือนหรือที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ให้วงเงินกู้สูงถึง 100% ของราคาประเมิน ดอกเบี้ยลดพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรก อยู่ที่ 3.233% ต่อปี

ขณะที่นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ได้จัดมาตรการเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูการผลิตที่เสียหายจากภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 67/68 เสริมสภาพคล่องเกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท

และ 2.สินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนและทรัพย์สิน ค่าซ่อมเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตร ค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรรอบใหม่ วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท

ส่วนนายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในพื้นที่น้ำท่วมภาคเหนือ มีลูกค้า ธอส.ที่มีหลักประกัน 24,588 ราย คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือกว่า 28,700 ล้านบาท โดยจะร่วมมือพันธมิตรประกันวินาศภัย พิจารณาสินไหมเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ

สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติ ให้ได้รับเงินสินไหมทดแทนโดยเร็ว ติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้จนถึงวันที่ 30 ธ.ค.นี้.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่