ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมข้าวไทยอยู่ในภาวะอันตราย และข้าวพื้นเมืองไทยหลายสายพันธุ์อาจหายไป เช่น ข้าวหอมปทุมธานี และข้าวกข 79 ที่ปัจจุบันผลผลิตลดลงมาก เพราะชาวนาปลูกข้าวพันธุ์พื้นนุ่มของเวียดนาม โดยเฉพาะข้าวหอมพวง หรือที่รู้จักกันว่าเป็นข้าวหอมมะลิเวียดนาม ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ เพราะตรงกับความต้องการของตลาดโลก ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ระยะเวลาการปลูกสั้น และทนทานต่อโรค ศัตรูพืช
“ตอนนี้ข้าวที่คนไทยกิน หรือข้าวสารบรรจุถุงที่ขายในประเทศ ไม่ต่ำกว่า 80% เป็นข้าวหอมพวง ซึ่งผู้บริโภคไทยไม่รู้เลย เพราะชาวนาปลูกข้าวทั้ง 2 พันธุ์นี้มากขึ้น ทำให้ข้าวหอมปทุมธานีแทบจะหายไปแล้ว เนื่องจากให้ผลผลิตต่อไร่สูงมากถึง 1,200-1,500 กิโลกรัม (กก.) ส่วนข้าวหอมปทุมธานี 800-900 กก. อีกทั้งใช้เวลาปลูกสั้น 90-100 วัน ปลูกได้ทั้งปี ชาวนาขายได้ทั้งปี มีเงินใช้ทั้งปี ไม่เหมือนข้าวหอมปทุมธานี ที่ใช้เวลาปลูกนาน 4 เดือน อ่อนแอ ไม่ทนต่อศัตรูพืช หรือข้าวหอมมะลิที่ปลูกได้ปีละครั้ง”
นอกจากนี้ คาดว่าในระยะเวลาอันสั้นนี้ ชาวนาภาคอีสานจะปลูกข้าวหอมมะลิลดลงเช่นกัน เพราะปลูกข้าวขาวแทน เนื่องจากปลูกได้ปีละ 2 ครั้ง และขายได้ 2 ครั้ง ให้ผลผลิตต่อไร่มากกว่าที่ 600-800 กก. แต่หอมมะลิ เพียง 350-400 กก.ต่อไร่ โดยคาดว่าในอนาคตชาวนาไทยจะปลูกข้าวทุกสายพันธุ์ที่เวียดนามมี รวมถึงของจีน เพราะรัฐบาล 2 ประเทศมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมข้าว และพัฒนาสายพันธุ์ข้าวต่อเนื่อง ทำให้มีสายพันธุ์ดีๆที่หลากหลาย ตรงกับความต้องการของแต่ละตลาด ซึ่งจะยิ่งทำให้ข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองของไทยหายไปอย่างน่าเสียดาย
ร.ต.ท.เจริญกล่าวว่า ต้องการให้กรมการข้าวเร่งพัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่ๆที่ตรงกับความต้องการของตลาดให้มากขึ้น และให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น ต้านทานโรค เพื่อลดต้นทุนการผลิต ไม่เช่นนั้นข้าวไทยจะแพงกว่าคู่แข่ง และแข่งขันยาก อีกทั้งต้องการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แก้ไขกฎหมายที่อนุญาตให้นำเข้าพันธุ์ข้าวจากต่างประเทศ มาศึกษา วิจัย และพัฒนาร่วมกับสายพันธุ์ข้าวไทย และให้ชาวนาได้ทดลองปลูก เพราะกฎหมายนี้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพันธุ์ข้าวไทย รวมถึงพัฒนาแหล่งชลประทาน อย่าแจกแต่เงิน เพราะไม่มีประโยชน์ในการพัฒนาข้าวไทยเลย ถ้าไม่อยากให้อนาคตข้าวไทยมืดมน
“อีกไม่กี่ปี ไทยจะเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 3 ของโลก มีอินเดีย เป็นที่ 1 เวียดนาม ที่ 2 และจากนั้นจีนก็จะแซงเพราะไทยไม่มีโปรดักส์ใหม่ๆ ขายแต่ข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งปัจจุบัน ตลาดข้าวหอมในโลกมีมากถึง 5 ล้านตัน แต่เราขายได้ปีละราวๆ 1 ล้านตัน ที่เหลือเป็นของเวียดนาม และจีน ส่วนตลาดข้าวนึ่งก็หดตัว เพราะเสียตลาดให้อินเดีย ไทยจึงเหลือแต่ตลาดข้าวขาวพื้นแข็ง ที่ยังพอขายได้ที่อิรัก อินโดนีเซีย บางประเทศในแอฟริกา”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่