ราคาสินค้าเกษตรนิวไฮไม่ใช้เงิน “ภูมิธรรม” ใจฟูมูลค่า 1 ล้านล้าน ข้าวสูงสุดรอบ 20 ปี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินมาตรการดูแลสินค้าเกษตร ทั้งพืชหลัก พืชรองในปี 67 ที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนรายใหญ่นั้น สามารถผลักดันให้ราคาผลผลิตเพิ่มขึ้นได้อีก 196,536 ล้านบาท มาอยู่ที่ 1.05 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปี 66 ที่สินค้าเกษตรช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้รวม 857,300 ล้านบาท ซึ่งรัฐไม่ต้องใช้งบประมาณเข้าไปอุดหนุนเลย

“ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้วางแผนการจัดผลผลิต มีปฏิทินสินค้าให้รู้ว่าแต่ละเดือนสินค้าอะไรจะออกสู่ตลาดเท่าไร จะได้เตรียมมาตรการไว้ล่วงหน้า ไม่รอให้เกิดปัญหา ทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นหลายตัว เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,221 บาท สูงสุดรอบ 5 ปี, ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 12,111 บาท สูงสุดรอบ 20 ปี, ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 11,964 บาท สูงสุดรอบ 4 ปี, ยางแผ่นดิบ กก. 77 บาท สูงสุดรอบ 10 ปี, น้ำยาง 70 บาท สูงสุดรอบ 10 ปี, ปาล์มน้ำมันเฉลี่ย กก.ละ 6 บาท, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 11.2 บาท, มันสำปะหลัง กก.ละ 2.75-3.15 บาท”

โดยแนวทางที่ดำเนินการคือ ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตร ให้คนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็ก เข้าไปรับซื้อผลไม้ช่วงที่ผลผลิตออกมาก และร่วมกับเอกชนช่วยรับซื้อพืชรองไปจำหน่าย แปรรูป หรือนำไปแจกลูกค้า โดยมีเป้าหมายบริหารจัดการพืชรอง 3 กลุ่ม ได้แก่ ผลไม้ เช่น มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย สับปะรด, พืช 3 หัว คือ กระเทียม หอมหัวใหญ่ หอมแดง, ผัก ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ในวันที่ 25 ก.ย.2567 กระทรวงพาณิชย์จะแถลงรายละเอียดร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ ก่อนเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.

นายภูมิธรรมกล่าวหลังการหารือกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ห้างค้าปลีกค้าส่ง จำนวน 150 ราย เพื่อจัดทำโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจว่า ทุกรายพร้อมใจกันลดราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพพร้อมกันทั้งประเทศ รวมถึงลดค่าเช่าพื้นที่ ค่าเช่าสถานที่ในห้าง เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.- 20 พ.ย.นี้ ก่อนที่เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะออกมาในช่วงปลายปี.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่