ไทยยังเป็นขวัญใจ ของ "นักท่องเที่ยวต่างชาติ" อยู่หรือไม่? อัปเดต ปี 2567 จำนวนเพิ่ม แต่ใช้จ่ายลด

ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังโควิด-19 คลี่คลาย แต่อย่างไรก็ตาม หากประเมิน ในช่วง 5 เดือนแรก ของปี 2567 จะพบว่า มีเพียง ประเทศญี่ปุ่น และเวียดนาม เท่านั้น ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลับมาสูงกว่าช่วงก่อนโควิด

เมื่อมองกลับมาที่ การท่องเที่ยวไทย ข้อมูลจาก Krungthai COMPASS เผยว่า ม.ค.-พ.ค. ปี 2567 การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย กลับมาอยู่ที่ 88% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด ปี 2562 ซึ่งยังเป็นอัตราที่ต่ำกว่า เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ แต่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ที่ฟื้นกลับมาราว 87% โดยมี ฮ่องกง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ฟื้นตัวได้ช้าที่สุด โดยฟื้นเพียง 61% เท่านั้น จากการที่พึ่งพา นักท่องเที่ยวจีน เป็นหลัก 

6 เดือน ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทะลุ 17 ล้านคน จีนเบอร์ 1 

ขณะเมื่อขยับไทม์ไลน์เวลาเก็บข้อมูลยาวขึ้น เป็น ม.ค.-มิ.ย. โฟกัสสำคัญ ช่วยตอบคำถามที่ว่า "ไทยยังเป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อยู่หรือไม่?"

พบมีข้อสังเกตหลายจุด โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า ครึ่งปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมกว่า 17.5 ล้านคน ถือว่าเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 35% นำโดยนักท่องเที่ยว ชาวมาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย ที่มีจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์

แต่ 5 สัญชาติแรกสูงสุด พบว่า จีน (3.44 ล้านคน) ยังกลับมาครองเป็นอันดับ 1 รองลงมา มาเลเซีย (2.44 ล้านคน), อันดับ 3 อินเดีย (1.04 ล้านคน), อันดับ 4 เกาหลีใต้ (0.93 ล้านคน) และอันดับ 5 รัสเซีย (0.92 ล้านคน)

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า หากเทียบกับปี 2562 พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังไทยที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด คือ ญี่ปุ่น โดยตกจากอันดับ 6 ไปอยู่ในอันดับที่ 11 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศญี่ปุ่น ประกอบกับ ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นยังมีความกังวลด้านค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก

ขณะชาวจีนนั้น แม้จะเป็นเบอร์ 1 ในตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย แต่หากนับจำนวนอย่างแท้จริง จะพบว่า ยังเป็นการฟื้นตัวที่ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดอยู่มาก ฟื้นตัวราว 61% เท่านั้น 

กทม.-ชลบุรี-ภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต 

ทั้งนี้ เมื่อเจาะจังหวัดเป้าหมายการท่องเที่ยวในกลุ่มชาวต่างชาติ จะพบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ ในกรุงเทพฯ และชลบุรี มีอัตราการกลับมาสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว ขณะเป็นที่น่าสังเกตว่า จ.ชลบุรี มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แทนที่ภูเก็ต ที่ยังฟื้นตัวได้ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด ที่อยู่ราว 83% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยเป็นอัตราการฟื้นตัวที่ต่ำกว่าภาพรวมทั้งประเทศอีกด้วย

โดย Krungthai COMPASS วิเคราะห์ว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่นักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะกลุ่มกรุ๊ป ทัวร์ ซึ่งเคยเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของภูเก็ต ยังฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้ากว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่มอื่นๆ เช่นเดียวกับ กระบี่ และพังงา ที่ฟื้นตัวได้ช้าเช่นกัน ต่างจาก สงขลา ที่ได้อานิสงส์จากชาวมาเลเซีย 

ค่าใช้จ่ายต่อทริป ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด 4.9% ต่างชาติช็อปปิ้งลดลง 

แง่ภาพรวมการใช้จ่าย ที่จะเป็นเม็ดเงินหนุนรายได้เศรษฐกิจของไทยนั้น ก็มีข้อสังเกตเช่นกัน โดยภาพรวมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ทยอยเพิ่มขึ้นจากปี 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 45,568 บาท/คน/ทริป แต่ยังต่ำกว่าช่วงปี 2562 อยู่ประมาณ 4.9% (47,895 บาท) 

เมื่อแยกการใช้จ่ายเป็น หมวดหมู่ พบว่า ในปี 2566 ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเกือบทุกหมวด ยกเว้น ค่าที่พัก และค่ารักษาพยาบาล ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 

โดย ค่าใช้จ่ายด้านที่พัก เพิ่มขึ้นถึง 15.2% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวจีนในยุคหลัง โควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและนิยมพักโรงแรมระดับ 4-5 ดาวเป็นหลัก ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านที่พักของนักท่องเที่ยวจีนเติบโตถึง 91%

อีกทั้งเป็นที่น่ากังวลว่า หมวดหมู่ค่าใช้จ่ายที่ลดลงมากที่สุด คือ ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้า หรือค่าใช้จ่ายในการ Shopping ที่มีสัดส่วนกว่า 18.4% ของค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ย และลดลงถึง 30.8% เมื่อเทียบกับปี 2562 นั่นสะท้อนถึงกำลังซื้อโดยรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่กลับมาในระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิดโดยกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปสูงอย่างนักท่องเที่ยวรัสเซีย ยุโรป ตะวันออกกลาง สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ก็มีค่าใช้จ่ายต่ำลง 

ทั้งนี้ ภาพรวม มีลุ้นตลอดทั้งปี 2567 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย อาจแตะระดับ 36.5 ล้านคน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวไทยในระยะต่อไป.

ที่มา :  Krungthai COMPASS, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney