นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 67 แผนการกู้เงินเพื่อชดเชยขาดดุล จะไม่กู้เงินเต็มวงเงิน 805,000 ล้านบาท เพราะมีเงินคงคลังเหลือเพียงพอ คาดว่า ณ สิ้นปีงบ 67 จะมีเงินคงคลังแตะ 600,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่อยู่เกือบ 500,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล ตามกฎหมายหนี้สาธารณะ ที่กำหนดให้รัฐบาลกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลไม่เกิน 20% ของงบประมาณรายจ่าย รวมกับ 80% ของงบประมาณชำระคืนต้นเงินกู้ ซึ่งในปีงบ 67 สามารถกู้เงินตามกรอบกฎหมายได้ 815,000 ล้านบาท ขณะที่รัฐบาลวางแผนกู้ชดเชยการขาดดุล 805,000 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่เงินคงคลังใกล้แตะ 600,000 ล้านบาท เพราะงบปี 67 เพิ่งจะเบิกจ่ายได้ ซึ่งหน่วยงานราชการต่างๆกำลังเร่งรัดการจัดซื้อและทำสัญญากับคู่สัญญา หากเริ่มทำสัญญาจะทยอยการเบิกจ่าย และฐานะเงินคงคลังก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ 200,000-300,000 ล้านบาท และเชื่อว่าการเร่งเบิกจ่ายและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จะส่งผลให้เศรษฐกิจปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 3% “ขณะนี้ สบน.อยู่ระหว่างจัดทำแผนบริหารหนี้ปี 68-72 เพื่อพิจารณาแผนเงินกู้ในอนาคตว่าภาระหนี้ของรัฐบาลจะขยายตัวเพียงใด ส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) นั้น ในงบปี 67 ประมาณการไว้ที่ 65.74% และจะขึ้นไปสูงสุดในปี 70 แตะ 68.90% ส่วนปี 72 จะลดลงมาอยู่ที่ 68.10%”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่