นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า จากการที่ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุ ณ วันที่ 31 มี.ค.2566 ระบุจำนวนประชากรสูงอายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 13.06 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 20% ของประชากรไทยที่ 66,052,615 คน ขณะที่อัตราการเกิดน้อยกว่าอัตราการตาย ต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกันนับจากปี 2564 ก่อให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ ทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงาน ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขและสวัสดิการของประเทศเพิ่มขึ้น ความน่าสนใจด้านการลงทุนของประเทศลดลง และการสะสมทุนในประเทศลดลง เพราะแรงงานวัยเกษียณมีรายได้ลดลง และใช้จ่ายด้านสุขภาพมากขึ้นส่งผลให้มีการออมน้อย
“ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เพื่อรองรับปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน โดยขยายเวลาเกษียณอายุโดยสมัครใจ โดยเฉพาะในหน่วยงานที่ขาดแคลนบุคลากร เพื่อให้ผู้สูงอายุมีงานทำและมีรายได้ต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง ช่วยลดปัญหาขาดรายได้ในการดำรงชีพ, เร่งปรับเปลี่ยนมุมมองของสังคมที่มีต่อผู้สูงอายุ จากภาระที่ต้องแบกรับ ให้เป็นสินทรัพย์มากประสบการณ์ โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในการทำงานของผู้สูงอายุ”
นอกจากนี้ ต้องบูรณาการภารกิจระหว่างหน่วยงานเพื่อพัฒนาผู้สูงอายุ เพื่อสร้างระบบเพิ่มพูนทักษะในการประกอบอาชีพ หาตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ นำดิจิทัลแพลตฟอร์มมาช่วยในการบริหารศูนย์ธุรกิจสำหรับผู้สูงอายุ โดยให้บริการแก่ผู้สูงอายุที่ต้องการหารายได้เพิ่มเติมจากการรับจ้างทำงาน ทำให้ผู้สูงอายุได้ใช้ทักษะตามความถนัดของแต่ละคน.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่