นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอฮช.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบความคืบหน้าในการดำเนินงานและงบประมาณ การจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะ 4 ปี (ปี 2567-2570) มีวิสัยทัศน์มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่การเป็น ASEAN Halal Hub หรือศูนย์กลางฮาลาลของอาเซียน ภายในปี 2570 ตอบโจทย์นโยบาย IGNITE THAILAND ที่ตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาหาร (Agri culture & Food Hub)แผนปฏิบัติการฉบับนี้มีเป้าหมายที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 1.2% คิดเป็นมูลค่า 55,000 ล้านบาท และสร้างงานในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่งต่อปี และรัฐบาลจะผลักดันการจัดตั้งไทยแลนด์ ฮาลาล วัลเลย์ เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศ
“การพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของไทย จะช่วยสร้างการรับรู้และการยอมรับผลิตภัณฑ์
ฮาลาลไทย เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนธุรกิจ MICE และยังเป็นการขับเคลื่อน Soft Power ของไทย ลดข้อจำกัด แก้ไขระเบียบ และบูรณาการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมฮาลาล โดยได้มอบหมายให้ นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย รับผิดชอบภารกิจการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาล ของประเทศไทยไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหา การเจรจาเพื่อลดอุปสรรค จากกฎระเบียบและมาตรการทางการค้ากับประเทศคู่ค้า เพื่อให้เข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่ๆ”
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปจะนำ (ร่าง)แผนปฏิบัติการฯ เสนอต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อให้ความเห็นชอบ โดยแผนปฏิบัติการฯได้กำหนดผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลเป้าหมาย (ระยะแรก) ไว้ 5 กลุ่ม ได้แก่
1.อาหารฮาลาล เช่น เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป อาหารทะเล อาหารพร้อมรับประทาน อาหารฮาลาลโดยธรรมชาติ และอาหารมุสลิมรุ่นใหม่
2.แฟชั่นฮาลาล ประกอบด้วยสิ่งทอ อัญมณี เครื่องหนัง
3.ยา สมุนไพร เครื่องสำอางฮาลาล
4.โกโก้และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง
5.บริการและการท่องเที่ยวฮาลาล
ทั้งนี้ ภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ ปี 2567-2570 ได้วางกรอบใช้งบประมาณ 1,230 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 มาตรการ คือ 1.การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตฮาลาลไทย 2. การพัฒนาการผลิตให้ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมฮาลาลไทย 3.การยกระดับปัจจัยแวดล้อมอุตสาหกรรมฮาลาลไทย
โดยมีโครงการที่เป็น Quick Win (พ.ศ.2567-2568) ใช้งบ 95 ล้านบาท ดำเนินงาน อาทิ สร้างการรับรู้ศักยภาพสินค้าและบริการอาหารฮาลาลไทย การขยายตลาดสินค้าและบริการอาหารฮาลาลไทยในประเทศและต่างประเทศ และการจัดทำระบบ Halal IU ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลรายงานเชิงลึกและวิเคราะห์ตลาด เป็นต้น
“มูลค่าของตลาดการค้าอาหารฮาลาลโลกปีนี้ อยู่ที่ 2.60 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 5.28 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2573 หรือเพิ่มขึ้น 12.5% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมุสลิมโลก และการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศมุสลิม นับเป็นโอกาสสำคัญ ที่ประเทศไทยต้องเข้าไปมีส่วนร่วม”
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบาย และแผนพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย สร้างกลไกสนับสนุน Ecosystem ของอุตสาหกรรมฮาลาลไทย เพื่อยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ ควบคู่กับมาตรฐานสินค้าฮาลาลและมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมการค้าผ่านการขยายตลาดการค้าสินค้าและบริการฮาลาล ทั้งในและระหว่างประเทศ รวมถึงทำหน้าที่เป็น National Focal Point ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ
“ศูนย์ฯ จะทำหน้าที่แก้ปัญหาอุปสรรค อำนวยความสะดวก ให้คำปรึกษา แนะนำ พร้อมทั้งให้บริการด้านข้อมูลสารสนเทศแก่ผู้ประกอบการฮาลาลอย่างครบวงจร”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่