ขายข้าว 10 ปียังจบไม่ลง!

เกือบเดือนแล้ว ตั้งแต่ "องค์การคลังสินค้า" หรือ อคส. ประมูลข้าวสารหอมมะลิสต๊อกรัฐลอตสุดท้าย ที่ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.67 จนถึงวันนี้ ยังประกาศผลประมูลไม่ได้

เพราะมีข้อสงสัยใน “บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด” ที่เสนอราคาสูงสุดที่ กก.ละ 19.07 บาท รวมกว่า 286 ล้านบาท และเพิ่มให้อีกเป็น กก.ละ 19.073 บาท ทั้งเรื่องทุนจดทะเบียนเพียง 2 ล้านบาท จากงบดุลปีล่าสุด มีเงินหมุนเวียน 1-2 ล้านบาท จะมีศักยภาพซื้อข้าวรัฐหรือไม่

“นายภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จึงสั่งให้คณะกรรมการรับ-เปิดซองและต่อรองราคา ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน รวมถึงอีก 6 บริษัทที่ยื่นซองเสนอราคาซื้อด้วย

แต่เมื่อครบกำหนด วันที่ 2 ก.ค.67 ก็ยังประกาศผลไม่ได้ เลื่อนแล้วเลื่อนอีกหลายครั้ง จนเกิดข้อสงสัยต่างๆนานาว่า เกิดอะไรกันแน่!! มีความพยายามจะเขี่ยทิ้ง “วีเอท” เปิดทางให้รายอื่นหรือไม่

“แหล่งข่าวนิรนาม” บอกว่า กระทรวงพาณิชย์เลื่อนประกาศผลออกไปก่อน เพราะตรวจสอบทั้ง 7 รายใหม่ ขณะนี้ ยังรอข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ จึงยังสรุปไม่ได้ว่า มีรายใดน่าเคลือบ แคลงสงสัย หรือเป็น “นอมินี” ใคร หรือเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกทางการ “ขึ้นบัญชีดำ” หรือไม่

โดยมีข่าวว่า “วีเอท” อาจเกี่ยวพันกับบางบริษัท ที่ติดแบล็กลิสต์ทางการ สอดคล้องกับที่ “แหล่งข่าวนิรนาม” บอกว่า ยิ่งตรวจสอบลึก ยิ่งพบความผิดปกติของ “วีเอท” หลายเรื่อง หากเป็นจริง “วีเอท” ก็อาจไม่ได้ข้าวลอตนี้ เพราะขาดคุณสมบัติ และต้องถูกริบหลักประกันซองราคาด้วย

ตามที่กำหนดไว้ในทีโออาร์ “หากพบภายหลัง ผู้เสนอซื้อรายใดขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใด ให้ถือว่ารายนั้นขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม คณะทำงานระบายข้าวสาร สงวนสิทธิที่จะพิจารณาขายทั้งหมดหรือบางส่วน หรือยกเลิกขายทั้งหมดหรือบางส่วน

กรณีใช้สิทธิยกเลิกขาย เนื่องจากผู้เสนอซื้อขาดคุณสมบัติ อคส.จะริบหลักประกันซองเสนอซื้อ 2% ของมูลค่าที่ยื่นเสนอซื้อ เพื่อชดเชยความเสียหายแก่ทางราชการ”

สำหรับคุณสมบัติต้องห้าม คือ 1.ละทิ้งการเสนอซื้อและ/หรือละทิ้งสัญญาซื้อขายข้าวสารกับทางราชการ 2.กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ 3.กระทำการใดๆที่เป็นผลเสียหายแก่ทางราชการ หรือถูกชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช. 4.มีความสัมพันธ์กับนิติบุคคล ที่ทำให้ทางการเสียหาย 5.ค้างค่าปรับ ค่าใช้จ่าย หรือยังมีคดีกับ อคส.

หาก “วีเอท” ตกรอบ ก็จะต่อรองราคากับลำดับถัดๆไป หากให้ต่ำกว่า 19.073 บาท เช่น 19 บาท “วีเอท” ต้องจ่ายส่วนต่างให้รัฐ กก.ละ 0.073 บาท เพื่อให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุดเช่นเดิม

ผู้ให้ราคาสูงลำดับถัดไป คือ สหธัญ กก.ละ 18.69 บาท, ธนสรร ไรซ์ กก.ละ 18.01 บาท, เอส.เอส.เอ็ม.อาร์.การเกษตร กก.ละ 16.71 บาท, บี เอ็น เค การเกษตร 2024 กก.ละ 16.00 บาท และทรัพย์แสงทองไรซ์ กก.ละ 15.61 บาท

หนังยาวจบไม่ลงจริงๆ!!.

ฟันนี่เอส

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม