ตัวเลข “เงินเฟ้อไทย” กลับมาอยู่ในภาวะลดลงอีกครั้ง หลังจากเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทำสถิติบวกเพิ่มขึ้น 1.54% สูงสุดในรอบ 13 เดือน จากตัวแปรค่าไฟฟ้า และ ราคาผักผลไม้สด-ไข่ไก่ปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศร้อน
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ เผย ดัชนีเศรษฐกิจการค้า ประจำเดือนมิถุนายน 2567 โดย “พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์” ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย เดือน มิ.ย. 2567 เท่ากับ 108.50 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งเท่ากับ 107.83
ทำให้ “อัตราเงินเฟ้อทั่วไป” ของเดือน มิ.ย. สูงขึ้นในอัตราชะลอตัว 0.62% โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากผลกระทบจากฐานต่ำของค่ากระแสไฟฟ้าในเดือนก่อนหน้าสิ้นสุดลง ประกอบกับราคาสินค้ากลุ่มอาหารสดสูงขึ้นในอัตราชะลอตัว เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก หลังจากสิ้นสุดช่วงสภาพอากาศร้อนจัด สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
ทั้งนี้เมื่อเทียบ “อัตราเงินเฟ้อ” ของไทยกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุด ณ เดือน พ.ค. 2567 พบว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยสูงขึ้น 1.54% ซึ่งแม้ว่าเร่งตัวขึ้นจากปัจจัยชั่วคราว แต่ยังอยู่ในระดับต่ำอันดับ 23 จาก 126 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน จาก 8 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (บรูไน สปป.ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย)
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไตรมาสที่ 3 ปี 2567 คาดว่ามีแนวโน้มอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 2 ปี 2567
ปัจจัยที่ยังทำให้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ได้แก่
ขณะที่ปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ได้แก่
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2567 อยู่ที่ 0.5% ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จะมีการทบทวนอีกครั้ง.
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney