ประเทศอินเดีย ได้ขึ้นแท่นเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจเติบโตร้อนแรงที่สุดในโลก และเตรียมจะผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจเบอร์ 4 รองจากสหรัฐฯ จีน และเยอรมนี ภายในปี 2568 หลังจีดีพีล่าสุดโตถึง 8.2%
นี่เองทำให้การเตรียมพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในแง่การค้า-การลงทุนของอินเดีย มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย ได้อนุมัติให้จัดตั้งท่าเรือวาดาวัน (Vadhavan) ใกล้กับมหาราษฎร์ธรรมหนุ ซึ่งจะถูกพัฒนาให้เป็นท่าเรือหลักและเป็นท่าเรือน้ำลึกในพื้นที่สีเขียวของเขตพัลการ์ ภายใต้การลงทุน มูลค่ารวม 9,134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (7.622 แสนล้านรูปี)
ท่าเรือแห่งนี้จะประกอบด้วย ท่าเทียบเรือตู้สินค้า 9 แห่ง แต่ละแห่งมีความยาว 1,000 เมตร เป็นท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ 4 แห่ง ได้แก่ ท่าเทียบเรือชายฝั่ง ท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าของเหลว ท่าเทียบเรือ Ro-Ro (ลำเลียงสินค้าขึ้นและลงจากเรือด้วยสายพาน) และท่าเทียบเรือสำหรับยามชายฝั่ง
โดยอินเดียต้องถมทะเลเพื่อขยายพื้นที่ 1,448 เฮกตาร์ และการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นในทะเล 10.14 กิโลเมตร รวมทั้งพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และตู้สินค้า เพื่อรองรับ ศักยภาพในการรองรับการขนส่งสะสมถึง 298 ล้านตันต่อปี รวมถึงความสามารถในการบริหารตู้สินค้าประมาณ 23.2 ล้านทีอียู (เทียบเท่า 20 ฟุต) ซึ่งคาดกันว่าเมื่อก่อสร้างเสร็จ ท่าเรือ Vadhavan ก็จะกลายเป็นท่าเรือที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
ขณะกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทย ชี้ว่า ท่าเรือใหม่ของอินเดีย ที่เฟสแรกจะแล้วเสร็จภายในปี 2572 นั้น จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการสินค้าที่ลำเลียงเข้าสู่ท่าเรือของอินเดีย ที่จะส่งผลบวกมายังการช่วยกระตุ้นปริมาณการนำเข้าและส่งออกระหว่างไทยกับอินเดียให้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน การที่อินเดียมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและระดับน้ำลึกที่เหมาะสม จะช่วยให้เรือขนาดใหญ่สามารถเทียบท่าได้ จะช่วยลดระยะเวลาการขนส่งของเรือที่เข้าเทียบท่า เป็นการลดต้นทุนการขนส่งของผู้ส่งออกไทยด้วย
อีกทั้งเมื่อท่าเรือมีระบบเชื่อมโยงที่มีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงทางถนนและทางรถไฟสู่ท่าเรือตามแผนงาน ก็จะช่วยยกระดับการเข้าถึงพื้นที่แนวหลังของท่าเรือ Vadhavan เป็นการเปิดตลาดใหม่ให้แก่ธุรกิจไทยในอนาคต
ทั้งนี้ อินเดียนับเป็นคู่ค้าลำดับที่ 11 ของไทย โดยเมื่อปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวมกัน 16,044.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 555,217 ล้านบาท
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney