ต้องยอมรับว่า หลังโควิด-19 “บ้านพักตากอากาศ” ในเมืองไทย ค่อนข้างได้รับความสนใจสูง จากกลุ่มเศรษฐี ทั้งคนไทย และ ต่างชาติ โดยเฉพาะทำเล จังหวัดภูเก็ต ที่แม้จะมี ราคาที่ดิน และ ราคาอสังหาฯ ค่อนข้างแพง แต่ตลาดดีมานด์ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง
ขณะมูลค่าการลงทุนอสังหาฯ ในภูเก็ต เติบโตอย่างก้าวกระโดด จนผู้พัฒนาบางราย ก่อสร้างไม่ทันต่อความต้องการ อีกทั้งมีข่าว กลุ่มนักลงทุนจากต่างชาติบางกลุ่มสนใจการซื้อแบบเหมาอาคาร ในกลุ่มคอนโดมิเนียม อีกด้วย ยิ่งดึงดูด การลงทุน แม้จะมีความห่วงใยเกิดขึ้นว่า ในอนาคตจะทำให้ อสังหาฯ ภูเก็ต ฟองสบู่แตก หรือไม่?
สำหรับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ข้อมูลจาก คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เผยว่า ปัจจุบันทำเลหลักของการลงทุนบ้านพักตากอากาศส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณตามแนวชายหาดและในพื้นที่ใกล้แนวชายหาด โดยเฉพาะอำเภอถลางมากที่สุด ตามแนวชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ย่านหาดบางเทา หาดสุรินทร์ หาดลายัน เชิงทะเล รองลงมาคือ อำเภอเมืองภูเก็ต บริเวณอ่าวฉลอง หาดราไวย์ และอำเภอกะทู้ หาดกมลา ป่าตอง โดย “บ้านพักตากอากาศ”
ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระดับราคา 25-50 ล้านบาท ท่ามกลางการแข่งขันการพัฒนาโครงการของรายใหญ่ทั้งในระดับท้องถิ่น, ทุนต่างชาติ และ ผู้พัฒนาฯ จากกรุงเทพฯ ที่ไหลเข้าไป ชิมความหอมหวานของดีมานด์ อย่างต่อเนื่อง
เจาะ 1 ในผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ ที่สุดในภูเก็ต คือ “บันยันกรุ๊ป” หรือ บริษัท บันยัน ทรี โฮลดิ้งส์ จำกัด กลุ่มทุนใหญ่ ที่ลงทุนในโรงแรม รีสอร์ต สปา และแกลเลอรี ทั่วโลก ขณะ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย หรือ เรสซิเดนซ์ อยู่ภายใต้แบรนด์ 14 แห่ง ในกว่า 20 ประเทศ
ล่าสุด มีความเคลื่อนไหว โดยระบุว่า หลังมอง “ภูเก็ต” เป็นลักชัวรี่เดสติเนชันระดับเวิลด์คลาส กลุ่มบริษัท ได้ทุ่มลงทุน ลุย 15 โครงการอสังหาฯ หรู บนเกาะภูเก็ต เพื่อรับอานิสงส์ การเติบโตของดีมานด์ ที่คาดว่า จะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ นับหลังจากนี้ ในทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะ แนวโน้ม การพักผ่อนระยะยาวและการย้ายถิ่นฐานของกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals-HNWI) ทั่วโลก ที่จะไหลเข้ามาในภูเก็ต
“โฮ กวงปิง” ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บันยันกรุ๊ป กล่าวว่า บันยันกรุ๊ป เชื่อมั่นในศักยภาพอันเต็มเปี่ยมของภูเก็ตว่า เกาะแห่งนี้เป็นเพชรเม็ดงามที่มีคุณค่าเหนือไปกว่าการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีไฮไลต์เป็นหาดทรายขาวและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้เมืองไทย
เพราะความเพียบพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและบริการระดับเวิลด์คลาสในทุกๆ มิติ ทั้งเครือข่ายเฮลท์แคร์ระดับโลก โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ และเมกะโปรเจกต์มากมาย ทำให้ที่นี่เป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชันระดับไฮเอนด์เบอร์ต้นของโลก ด้วยความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตที่โตอย่างต่อเนื่อง จึงได้ตัดสินใจขยายการลงทุนโครงการเรสซิเดนซ์ในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง
จุดแข็งของภูเก็ตในฐานะเมืองตากอากาศระดับโลก ประกอบด้วยภูมิอากาศที่อบอุ่นและแจ่มใสตลอดปี หาดทรายสวย น้ำทะเลใสสะอาด ตลอดจนเสน่ห์ของเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีสที่ทำให้ตัวเมืองมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์
ภูเก็ตได้รับการโหวตจากนักเดินทางทั่วโลกจนติดอันดับเกาะที่ดีที่สุดในเอเชียโดย Condé Nast Traveler Readers' Choice ปี 2023 นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว เกาะแห่งนี้มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่มีคุณภาพของทุกครอบครัวในระดับเดียวกับเมืองใหญ่ระดับโลก
เช่น โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ 12 แห่ง สถานพยาบาลชั้นนำ พร้อมด้วยสุดยอดร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ ที่มีให้เลือกมากมายไม่รู้จบ นอกจากนี้ โครงการขยายท่าอากาศยานภูเก็ตเพื่อรองรับการเดินทางเข้า-ออกที่เพิ่มขึ้นและโปรเจกต์สร้างรถไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็จะช่วยเติมเต็มศักยภาพของเมืองให้สมบูรณ์มากขึ้น
“วงการอสังหาฯ ในภูเก็ตกำลังบูมไม่แผ่วด้วยดีมานด์ในคอนโดและวิลล่าบนทำเลทองหายากใกล้ทะเล การซื้อบ้านพักที่ภูเก็ตนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลุ่มมั่งคั่งทั้งชาวไทยและต่างชาติมองหาการใช้ชีวิตที่เหนือระดับท่ามกลางความงามของธรรมชาติฝั่งอันดามัน เราจึงขยายธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์ที่เกิดขึ้น"
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบ บันยันกรุ๊ป เพิ่ง เปิดตัวโครงการ Garrya Residences Phuket ในราคาเริ่มต้น 34 ล้านบาท ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวลอตสุดท้ายของเฟสแรก ในโครงการคอนโดมิเนียม 7 ชั้น อย่าง Lakeview Residences ในพื้นที่ Laguna Lakelands ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราว 7 ล้านกว่าบาท ขณะในเดือนนี้ มีรายงานว่า จะมีการเผยโฉมโครงการคอนโด 4 ชั้น ในชื่อ Lakeside Residences อีกด้วย
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney