มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยในงานประกาศแผนธุรกิจปี 2567 ของบริษัทฯ ว่า บริษัทได้ปรับราคาผงชูรสในแพ็กเกจขนาดใหญ่ขึ้นเฉลี่ย 4% มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับราคาครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อปี 2565 ได้ปรับราคาขึ้นไป 10%
ขณะที่สาเหตุของการปรับราคาดังกล่าว สืบเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่สุด แต่ยังตรึงราคาไซส์เล็กที่ใช้ในครัวเรือนเอาไว้
ด้านกรมการค้าภายใน ชี้แจงกรณีผู้ผลิตปรับขึ้นราคาผงชูรส จากต้นทุนวัตถุดิบทั้งแป้งและน้ำตาลทรายเพิ่มสูงขึ้น ยันให้ปรับเฉพาะขนาดใหญ่ ส่วนขนาดที่ใช้บริโภคในครัวเรือน ให้คงราคาเดิม ย้ำหากต้นทุนลด ต้องปรับลดราคาลงมาด้วย
วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่า บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ปรับราคาจำหน่ายสินค้าผงชูรส ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ว่า บริษัทดังกล่าวได้แจ้งขอปรับขึ้นราคาจากต้นทุนการผลิตที่ปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะแป้งมันสำปะหลังและน้ำตาลทรายดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตราคาสูงขึ้น โดยจะขอปรับราคาผงชูรสตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2567 ซึ่งกรมได้ขอความร่วมมือให้บริษัทชะลอการปรับราคาออกไปก่อน และบริษัทได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้ชี้แจงอีกครั้งว่า ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจริง จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคา แต่เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้บริโภค จะปรับขึ้นเฉพาะขนาดใหญ่เท่านั้น เพราะส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรม หรือร้านอาหาร ส่วนขนาดเล็กที่ใช้ในครัวเรือน ยังคงให้ความร่วมมือจำหน่ายในราคาเดิม ไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายใน จะติดตามสถานการณ์ราคาจำหน่ายผงชูรสอย่างใกล้ชิดต่อไป หากต่อไปต้นทุนการผลิตปรับลดลง ผู้ผลิตจะต้องปรับลดราคาลงมาให้สอดคล้องกับต้นทุนด้วย และกรณีสินค้าอื่นๆ หากมีการขอปรับขึ้นราคา กรมจะพิจารณาให้สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้น และไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคมากจนเกินไป
และหากตรวจสอบพบว่ามีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
ทั้งนี้ ตลาดผงชูรสในไทย ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท เติบโตในระดับ 1-3% ทุกปี อายิโนะโมะโต๊ะมีส่วนแบ่งการตลาด 93% โดยอายิโนะโมะโต๊ะมีรายได้ปีละ 32,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 8 ของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหารในประเทศไทย และคาดว่าภายในสิ้นปี 67 จะเติบโตมากกว่าตัวเลขอัตราเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่สองดิจิต
อ้างอิง Thairath
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney