ทำเล “บางนา-ตราด” ประตูสู่ EEC ภาคตะวันออก ยังคงเกิดความเคลื่อนไหว จากการเปลี่ยนแปลงของ “ที่ดิน” อย่างต่อเนื่อง และได้ก้าวขึ้นมาเป็นฮับของ “หมู่บ้านจัดสรร-โครงการบ้านระดับหรู” มากมาย จากความต้องการอยู่อาศัยที่มีมากขึ้น จนดึงดูดให้ดีเวลลอปเปอร์ ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ตบเท้าเข้ามาพลิกโฉม “ที่ดิน” เพื่อพัฒนาโครงการราคาแพงตอบโจทย์
ข้อมูลจาก “พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ” เผย ย้อนไปช่วงปี 2564 มีเพียงโครงการบ้านจัดสรรระดับราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาทต่อยูนิต ขึ้นไป ทยอยเปิดตัวในย่านบางนา-ตราด แต่หลังจากปี 2565 เริ่มมีบ้านจัดสรรที่เปิดขายในราคาไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาทต่อยูนิต เข้าสู่ตลาดบนย่านแห่งนี้
ซึ่งรับความสนใจจากกลุ่มคนซื้อไม่น้อย ทำให้คาดการณ์ในระยะยาวได้ว่าจะมีโครงการในระดับราคานี้เพิ่มขึ้นอีกแน่นอน รวมทั้งอาจจะมีบ้านจัดสรรที่มีราคาขายมากกว่า 20 ล้านบาทต่อยูนิต เปิดขายใหม่มากขึ้น บางนา-ตราด อาจจะเป็นอีกหนึ่งทำเลของกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีบ้านราคาแพงเปิดขายมากต่อเนื่องในอนาคต
ขณะล่าสุด กลุ่มแสนสิริ ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ “SANSIRI 10 EAST” บนพื้นที่ 165 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท
ซึ่ง “สุรเชษฐ กองชีพ” กรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ ชี้ว่านี่ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันศักยภาพของพื้นที่โดยรอบอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงหลักกิโลเมตรที่ 10 ของ ถนนบางนา–ตราด ให้สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพราะโครงการมีเนื้อที่ขนาดใหญ่และมีถึง 4 แบรนด์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
พร้อมกับสินค้าบ้านหรูระดับลักชัวรีที่มีราคาขายเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทต่อยูนิต และบางโครงการมีราคาขายเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทต่อยูนิตแน่นอน ล่าสุดมีข่าวว่า ราคาขายสูงสุดอาจจะอยู่ที่ 500 ล้านบาทต่อยูนิต จึงถือได้ว่ากลุ่มแสนสิริเป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่มีโครงการในระดับ Luxury และ Super Luxury ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันบนทำเลบางนา-ตราด
สำหรับความน่าสนใจ ของทำเล บางนา-ตราด จนอาจกล่าวได้ว่า เป็น บ่อทองคำ ของบริษัทอสังหาฯ ไทยนั้น เกิดขึ้นจากศักยภาพของทำเล เนื่องจาก ปัจจุบันพื้นที่ตามแนวถนนบางนา–ตราด ตั้งแต่สี่แยกบางนาไล่มาถึงช่วงหลักกิโลเมตรที่ 15 มีโครงการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบที่รองรับการใช้ชีวิต และสนับสนุนให้พื้นที่นี้มีศักยภาพที่สูงขึ้น
มีทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 2 แห่ง ไฮเปอร์มาร์เก็ต และคอมมูนิตี้มอลล์อีกหลายแห่ง โรงเรียนนานาชาติมากกว่า 10 แห่ง ที่มีหลายระดับการศึกษา และหลายรูปแบบของระบบการศึกษา มหาวิทยาลัยของรัฐบาลและเอกชนหลายแห่ง ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่นี้ รวมทั้งโรงพยาบาลของรัฐบาล และโรงพยาบาลอินเตอร์
“สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่มีโครงการบ้านจัดสรรราคาแพงในช่วงถนนบางนา-ตราด หลักกิโลเมตรที่ 10 หรือเลยไปถึงหลักกิโลเมตรที่ 15 เช่น แลนด์แอนด์เฮ้าส์, บริทาเนีย, เอพี (ไทยแลนด์) และเอสซี แอสเสท ในราคาขายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิต และมีบางโครงการเริ่มต้นที่ 50 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป ถึงหลัก 80 ล้านบาทก็มี”
นอกจากนี้ ทำเล บางนา-ตราด ยังมีอาคารสำนักงานใหม่ๆ เกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อรวมพื้นที่เช่าของอาคารสำนักงานทั้งหมดแล้วไม่ต่ำกว่า 175,000 ตารางเมตร และยังมีอาคารสำนักงานที่กำลังก่อสร้างอยู่อีกหลายอาคาร ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีพื้นที่อาคารสำนักงานในทำเลนี้มากกว่า 200,000 ตารางเมตร
ซึ่งถ้ารวมอาคารสำนักงานในพื้นที่ใกล้เคียงบนถนนสุขุมวิทก็คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 300,000 ตารางเมตร ทำให้มีคนเข้ามาทำงานในพื้นที่ย่านนี้และพื้นที่ต่อเนื่องตามแนวถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ ไม่ต่ำกว่า 50,000 คนต่อวัน
“สุรเชษฐ” ยังกล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญของย่านนี้ เพราะไม่ใช่นิคมอุตสาหกรรมเหมือนในอดีตอีกแล้ว กลายเป็นโกดังสำเร็จรูปให้เช่า หรือโลจิสติกส์แวร์เฮาส์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้งแบบแบ่งพื้นที่เช่า แบบเช่าทั้งอาคาร และแบบก่อสร้างตามที่ผู้เช่าในระยะยาวต้องการ
“เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงปี 2563 เป็นต้นมา และมีผลต่อความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้อีกด้วย โดยเฉพาะจากกลุ่มนักธุรกิจ เจ้าของธุรกิจที่เป็นชาวจีนหรือต่างชาติอื่นๆ ซึ่งมีความต้องการบ้านราคาแพงในพื้นที่ตามแนวถนนบางนา–ตราด รวมไปถึงการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมใน EEC ที่ส่งผลถึงพื้นที่ตามแนวถนนบางนา–ตราด ด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลืองก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงตามแนวถนนศรีนครินทร์ และต่อเนื่องมาถึงถนนบางนา–ตราด บางส่วน ก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้บางพื้นที่มีศักยภาพสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่มา : พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney