นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คนใหม่ เปิดเผยถึงแนวโน้มค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ว่า ทิศทางราคาค่าไฟฟ้างวดดังกล่าว ต้องติดตามสถานการณ์ต้นทุนราคาพลังงานอีกครั้งหนึ่งโดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในตลาดโลก ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติของไทย รวมทั้งปัจจัยอื่นๆอาทิ ค่าเงินบาท ซึ่งจะส่งผลต่อการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) จนสะท้อนต่อราคาค่าไฟที่ประชาชนต้องจ่าย จากงวดปัจจุบัน (พ.ค.-ส.ค.) อยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย โดย กกพ.จะเร่งรวบรวมข้อมูลต้นทุนทุกด้านเพื่อคำนวณค่าเอฟทีและประกาศรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ในเดือน ก.ค.นี้
“ขณะนี้ราคาแอลเอ็นจีอยู่ระดับซอฟต์หรืออ่อนตัวลง คือ เฉลี่ย 12 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านลูกบาศก์ฟุต ส่วนจะสามารถตรึงให้อยู่ระดับ 4.18 บาทต่อหน่วยจากที่จัดเก็บกับประชาชนในขณะนี้ หรือลดลงกว่านี้หรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ขอดูองค์ประกอบจากทุกส่วนก่อน ส่วนกรณีภาคเอกชนต้องการให้ค่าไฟฟ้าลดลงต่ำกว่านี้ ราคาปัจจุบัน ตนอยากให้มองว่าประเทศไทยมีความมั่นคงไฟฟ้า เป็นไฟฟ้าคุณภาพ ขณะนี้เทรนด์ลงทุนทั่วโลกไม่ได้มองว่าค่าไฟฟ้าต้องถูกหรือแพง แต่ควรมาจากการผลิตที่สะอาด เป็นไฟสะอาด เพื่อแข่งขันในตลาดโลกได้.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่