ไทย จะ “ได้” มากกว่า “เสีย” 18 สมาคม แถลงการณ์ หนุนรัฐบาล เพิ่มสิทธิ “ต่างชาติ” ซื้อคอนโดฯ ไทย 75%

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ไทย จะ “ได้” มากกว่า “เสีย” 18 สมาคม แถลงการณ์ หนุนรัฐบาล เพิ่มสิทธิ “ต่างชาติ” ซื้อคอนโดฯ ไทย 75%

Date Time: 25 มิ.ย. 2567 10:18 น.

Video

ดร.พิพัฒน์ KKP กระเทาะโจทย์เศรษฐกิจไทย บุญเก่าเจอความเสี่ยง บุญใหม่มาไม่ทัน

Summary

  • 18 สมาคมอสังหาฯ แถลงการณ์หนุน แนวคิดรัฐบาล ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ปลุกเศรษฐกิจ ผ่านการแก้กฎหมาย ขยายสิทธิ "ชาวต่างชาติ" เช่า-ซื้อ อสังหาฯ ในไทย ชั่วคราว ตอบคำถาม ประเทศไทยจะได้อะไร? หากขยายระยะเวลาเช่าอสังหาฯ ไทย จาก 30 ปี เป็น 99 ปี และ เพิ่มโควตา การถือครองคอนโดมิเนียม จาก 49% ให้เป็น 75% แนะ 6 ทางออก แก้ต่างชาติ เป็นใหญ่ในแผ่นดินไทย

Latest


ประโยชน์ ที่ประเทศไทย จะได้รับ มีมากกว่า “เสีย”… นี่คือ Key Message สรุปใจความสำคัญ ของ แถลงการณ์ 18 สมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ต่อ กรณี รัฐบาลกำลังพิจารณา ขยายระยะเวลา การเช่า และการขยายสิทธิของ “คนต่างชาติ” ในการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ไทย ใน 2 มิติ 

  • การขยายระยะเวลาเช่าอสังหาฯ ไทย ของคนต่างชาติ จาก 30 ปี เป็น 99 ปี
  • เพิ่มโควตา การถือครองคอนโดมิเนียม ของคนต่างชาติจาก 49% ให้เป็น 75% 


โดยในรายละเอียด “อิสระ บุญยัง” นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ระบุว่า ตามที่มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 เรื่องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเรื่องของการขยายระยะเวลาการเช่าจาก 30 ปีเป็น 99 ปี และจากมติคณะรัฐมนตรี 

18 สมาคมอสังหาฯ แถลงการณ์ หนุนรัฐบาล ขายสิทธิต่างชาติใน "อสังหาฯ ไทย"

สมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน สมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมหินอ่อนและหินแกรนิตไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค รวม 18 สมาคม 

มีความเห็นตรงกันว่า จากความต้องการในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ที่ต้องการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้ความต้องการความมั่นคงในที่อยู่อาศัยชาวต่างชาติก็ตามมาด้วย การขยายระยะเวลาเช่าจาก 30 ปี เป็น 99 ปี และให้การเช่าเป็นทรัพยสิทธิ ถือว่าเป็นระยะเวลาที่มีความมั่นคงเพียงพอ และจะทำให้การเช่าที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ เป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ 

ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาการซื้อที่อยู่อาศัย หรือการเช่าที่อยู่อาศัยโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายของชาวต่างชาติได้ สำหรับข้อกังวลในเรื่องที่ชาวต่างชาติจะถือครองที่ดินทางอ้อม หรือใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมก็สามารถวางกรอบของกฎหมายที่กำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน ตามข้อกำหนดของผังเมือง กำหนดเขตพื้นที่ หรือจำนวนเนื้อที่สำหรับการเช่าของชาวต่างชาติได้ ฯลฯ

คนไทย ได้อะไร? หากแก้กฎหมาย ให้ต่างชาติ มาอยู่อาศัย ในประเทศไทย มากขึ้น 


สำหรับประโยชน์ของคนไทยที่จะได้รับโดยตรงจากการขยายระยะเวลาเช่า คือ การที่มีที่ดินจำนวนมากทั้งในเขตใจกลางเมืองและนอกเมืองในทุกจังหวัดทั่วประเทศเป็นที่ดินของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ และที่ดินของภาคเอกชนที่ไม่มีความประสงค์จะจำหน่ายที่ดินออกมา 

สิทธิการเช่าระยะยาวจะเป็นหลักประกัน ที่จะทำให้คนไทยเองสามารถลงทุนระยะยาว ทั้งด้านการอยู่อาศัย การลงทุนด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และประกอบธุรกิจอื่นๆ รวมถึงการใช้สัญญาเช่าเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินและเป็นมรดกตกทอดได้เช่นเดียวกัน

ส่วนกรณี เพิ่มโควตา การซื้อคอนโดมิเนียม จาก 49% เป็น 75% ต่อโครงการนั้น 18 สมาคมอสังหาฯ เห็นร่วมกันว่า การเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติ ได้ซื้อที่อยู่อาศัย โดยถูกต้องตามกฎหมาย ในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการซื้อหรือการถือครองที่อยู่อาศัยโดยไม่ถูกต้อง 

เปิด 6 ข้อเสนอ แก้ต่างชาติ เป็นใหญ่ในแผ่นดินไทย 


อย่างไรก็ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการถือครองที่ดินโดยทางอ้อมหรือกระทบต่อสิทธิของคนไทยในการอยู่อาศัยในอาคารชุด ก็อาจออกระเบียบเพิ่มเติมในเรื่องต่างๆ ดังนี้ 

  1. สละสิทธิ์การโหวตของชาวต่างชาติในจำนวนที่เกินกว่า 49%
  2. การจำกัดจำนวนที่ดินไม่เกิน 5 ไร่ สำหรับโครงการที่ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์เกินกว่า 49% ไม่เกิน 75% เพื่อมิให้เกิดการถือครองที่ดินโดยทางอ้อม
  3. จัดเก็บค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนนิติกรรมและภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรายปีที่สูงกว่าคนไทยในอัตราที่กำหนด โดยนำส่วนเกินจากการจัดเก็บในอัตราที่คนไทยต้องเสียเข้ากองทุนสนับสนุนการมีบ้านของประชาชนชาวไทยที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ที่ริเริ่มและจัดตั้งขึ้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระยะยาว
  4. ผู้จัดการนิติบุคคล ประธานนิติบุคคล ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยเท่านั้น 
  5. จำนวนคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดชาวต่างชาติ ต้องไม่เกินกึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด    
  6. รักษาสิทธิเสียงข้างน้อยคนไทย โดยสิทธิออกเสียงของชาวต่างชาติรวมกันต้องไม่เกินเสียงข้างน้อยของคนไทยในลงคะแนนประชุม เช่นเดียวกับการรักษาสิทธิและเสียงผู้ถือกรรมสิทธิ์รายย่อยที่มีอยู่เดิม

ชู 3 พื้นที่ "กทม.-พัทยา-ภูเก็ต" ทำเลเหมาะสม 

สำหรับ พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองอาคารชุดได้เกินกว่า 49% แต่ไม่เกิน 75% มิได้อนุญาตให้ถือครองเป็นการทั่วไปในทุกพื้นที่ แต่ควรจัดทำประกาศกระทรวงเป็นครั้งคราวไป โดยในเบื้องต้นอาจกำหนดเพียง 3 พื้นที่คือกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และเมืองพัทยา

ทั้งนี้ ได้เคยมีการแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติอาคารชุดในปี 2542 ที่ให้ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ถึง 100% มีกำหนดเวลา 5 ปี เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมทั้งมีกฎหมายลำดับรองที่มีการควบคุมป้องกันไม่ให้กระทบสิทธิของคนไทยในการอยู่อาศัยในอาคารชุด และในช่วง 5 ปีที่ให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ได้ถึง 100% ในอาคารชุดก็มิได้มีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อ หรืออยู่อาศัยในอาคารชุดของคนไทยแต่อย่างใด

ท้ายที่สุด 18 สมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นว่าการแก้ไขกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน และจะเป็นการวางโครงสร้างการใช้ประโยชน์ที่ดิน โครงสร้างการอยู่อาศัยของประเทศ ให้สอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลก ที่มีการเปลี่ยนแปลงไป และจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ