นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ถึงการทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ว่าอาจจะทำให้ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทย โดยทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาขยายตัวอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น ทั้งนี้ กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในปัจจุบันเหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจในตอนนี้ และมีประสิทธิภาพในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ โดยความเสี่ยงของการปรับขึ้นกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อจากช่วง 1-3% ในเวลานี้ก็คือ จะทำให้อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงเพิ่มสูงขึ้น
อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันถือว่าเหมาะสมที่จะช่วยนำเศรษฐกิจของเราไปสู่ศักยภาพในระยะยาว แต่หากแนวโน้มทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปจากที่เราคาดการณ์ไว้ เราก็พร้อมที่จะปรับตัว เราไม่ได้ยึดติดกับอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน และมันก็ไม่ใช่มุมมองที่ตายตัว ซึ่งประเทศที่มีระบบนโยบายการเงินอิสระกับธนาคารกลางมักมีผลลัพธ์ด้านเงินเฟ้อและเสถียรภาพทางการเงินที่ดีกว่า
ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานด้วยว่า วาระการดำรงตำแหน่งของเศรษฐพุฒิ ในฐานะผู้ว่าการ ธปท.จะสิ้นสุดลงในเดือน ก.ย.2568 ที่จะถึง โดยนายเศรษฐพุฒิเปิดเผยว่า จะไม่ขอรับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งต่ออีกสมัยเป็นสมัยที่สองในปีหน้า.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่