นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกับโรงแรมในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากบริษัท FTI Touristik GmbH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มบริษัท FTI GROUP ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว บริษัททัวร์ใหญ่อันดับ 3 ในยุโรป ได้ยื่นล้มละลายต่อศาลแขวงนครมิวนิก เยอรมนี โดยขณะนี้ได้แบ่งประเด็นการติดตามเป็น 2 ส่วน กรณีแรกคือ นักท่องเที่ยว ตกค้างหรือได้รับผลกระทบทำให้เดินทางกลับไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานแจ้งเข้ามา แต่ได้กำชับกับโรงแรมว่าขอความร่วมมือรายงานเพื่อให้ความช่วยเหลือทันที
สำหรับประเด็นที่สองที่น่ากังวลมากกว่าคือ ผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มโรงแรม ที่อาจจะไม่สามารถเรียกเงินชดเชยค่าที่พักที่นักท่องเที่ยวเช็กเอาต์ออกไปแล้ว ในส่วนนี้ ททท.ได้รายงานต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้รับทราบแล้ว และจะช่วยติดตามในข้อกฎหมายว่ากองทุนรับประกันการเดินทางของเยอรมนี (German Travel Security Fund) ที่ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายให้นักท่องเที่ยวกรณีเกิดผลกระทบจากการล้มละลาย จะสามารถให้ความช่วยเหลือต่อโรงแรมในต่างประเทศได้หรือไม่อย่างไร
นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบกระแสการเดินทางเข้าออกหลังจากประกาศล้มละลายในวันที่ 3 มิถุนายน พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวจากตลาดเยอรมนีเดินทางเข้ามาราว 1,000 คนต่อวัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่การให้บริการเที่ยวบินตรงจากสายการบินไทยและลุฟต์ฮันซ่าสู่เมืองแฟรงก์เฟิร์ตและมิวนิกยังคงดำเนินการตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2567 สมาคมโรงแรมไทยได้สำรวจผลกระทบจากกรณีดังกล่าว มีโรงแรมในไทยไม่ได้รับการชำระเงินจากบริษัทที่แจ้งล้มละลายร่วม 111 ล้านบาท โดยโรงแรมในภาคใต้ได้รับผลกระทบสูงสุด 92.88 ล้านบาท เนื่องจากตามปกติโรงแรมจะให้เครดิตระยะเวลา 30 วันแก่บริษัทนำเที่ยว แล้วค่อยเรียกเก็บเงิน.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่