นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ.กำลังจัดทำร่างแผนพลังงานชาติ ฉบับใหม่ ประกอบด้วย 5 แผนสำคัญคือ 1.แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศปี 2567-80 (พีดีพี 2024) 2.แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (เออีดีพี) 3.แผนอนุรักษ์พลังงาน (อีอีพี) 4.แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (แก๊สแพลน) 5.แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจะยังคงอัตราค่าไฟฟ้าตลอดแผนพีดีพี 2024 ให้ไม่เกินหน่วยละ 4 บาท ใกล้เคียงแผนเดิมที่เฉลี่ยหน่วยละ 3.64 บาท ซึ่งอัตรานี้ยังไม่รวมค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) “สนพ.จะเปิดรับฟังความเห็นร่างแผนพีดีพี 2024 และร่างแผนแก๊สแพลน 2024 วันที่ 12-13 มิ.ย.โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นภาคราชการ รัฐวิสาหกิจและเอกชน และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นออนไลน์ 4 ภาคทั่วประเทศ วันที่ 17 และ 19 มิ.ย. ส่วนอีก 3 แผนจะเปิดรับฟังความเห็น ภายใน มิ.ย.นี้ จากนั้นจะนำไปประกอบในแผนพลังงานชาติ และนำเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จากนั้นจะเสนอ ครม.เพื่ออนุมัติเดือน ก.ย.นี้”
สำหรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าไทยปี 67-80 ประชาชนจะได้ประโยชน์แน่นอน เพราะให้ความสำคัญ 3 ด้าน คือ 1.ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ 2.ต้นทุนค่าไฟฟ้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม 3.ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม “แผนพีดีพีใหม่จะเพิ่มสัดส่วนผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นอยู่ที่ 51% ส่วนการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านจะรวมในสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน และปลายแผนฯจะมีพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็กมาเป็นทางเลือก ซึ่งการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้ไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (เซ็ต ซีโร่) ภายในปี 2608”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่