นายปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารแบรนด์ เคเอฟซี ภายใต้การบริหารโดยบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) เปิดเผยว่า ทางซีอาร์จีได้ปรับเป้าหมายการเติบโต ของแบรนด์เคเอฟซีในประเทศไทยในปีนี้ลงในระดับตัวเลขเติบโต 7-8% จากปีที่ผ่านมาเติบโตสูงถึง 12% เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ซึ่งคาดหวังว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นจากแคมเปญโปรโมชันที่เตรียมจะออกมาแรงๆเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในเร็วๆนี้ รวมถึงมาตรการของรัฐที่จะออกมา โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ตที่จะช่วยให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันทางซีอาร์จีได้เตรียมลงทุนอีก 300-400 ล้านบาท เพื่อรีโนเวทสาขาเดิม การปรับเปลี่ยนเมนูดิจิทัลบอร์ด 35 สาขา การขยายสาขาใหม่อีก 35 สาขา ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน และตามอำเภอรองๆ ขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพิ่มโอกาสทางการตลาดให้มากขึ้น รวมทั้งการเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ที่เรียกว่า “ทรานสปอร์ตเทชัน ฮับ” แบบแกร็บแอนด์โก ร้านค้าขนาดเล็กตามสถานีขนส่งมวลชน ไม่มีที่นั่งสั่งแบบกลับบ้าน รวมถึงคีออสโมเดลที่สั่งจากตู้คีย์ออสแทน สำหรับเคเอฟซีในประเทศไทยปีนี้ดำเนินการครบรอบ 40 ปี ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวเป็นสาขาแรก ในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ได้แปลงโฉมร้านให้เป็นสไตล์ย้อนยุคและเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาผสมผสานเพื่อสื่อถึงความนิยมของแบรนด์ โดยปัจจุบันลูกค้าของเคเอฟซียังเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆเข้าถึงสาขาได้ง่ายและราคาไม่แพง ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาด QSR มีมูลค่า 45,000 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งหรือราว 21,000 ล้านบาท เป็นยอดขายของเคเอฟซี ซึ่งซีอาร์จีเป็น 1 ใน 3 ของแฟรนไชส์ในไทย มีสาขารวมปีที่ผ่านมา 338 สาขา มียอดขาย 7,050 ล้านบาท และมีสัดส่วนรายได้ครึ่งหนึ่งของซีอาร์จี.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่