นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เกี่ยวกับกรณีที่จีนทุ่มตลาด (ตั้งราคาขายในไทยต่ำกว่าที่ขายในประเทศผู้ผลิต) สินค้าเหล็กในไทย ทำให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตเหล็กในประเทศ จึงมาหารือ และรับฟังความเห็น พร้อมข้อเสนอแนะเพื่อร่วมกันหาแนวทางส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเหล็กไทยมีการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม สำหรับข้อมูลและข้อเสนอแนะต่างๆที่ได้รับนั้น กขค.จะใช้เป็นกรณีศึกษากับอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุ่มตลาดและการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมจากต่างประเทศ
“ก่อนหน้านี้ กขค.ได้หารือร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ และสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เพื่อสอบถามข้อมูล ข้อคิดเห็นจากประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมข้อเสนอแนะ เพื่อร่วมกันหาแนวทางที่สอดคล้อง และเหมาะสมในการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเหล็กไทย มีการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม โดยใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านการแข่งขันทางการค้า ซึ่งจะผ่านกระบวนการการพิจารณาจาก กขค. ก่อนนำเสนอต่อรัฐบาล รวมทั้งการใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าแก้วิกฤติเหล็กไทยในปัจจุบันและอนาคต”
ทั้งนี้ เมื่อมีเหล็กจากต่างประเทศเข้ามาทุ่มตลาด ไทยใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไม่ให้เสียหาย ด้วยการเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด ซึ่งทำให้ต้นทุนของธุรกิจที่ใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าต่างๆ ตั้งแต่ผู้ผลิตต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ สูงขึ้น หรืออาจมีลักษณะของการกำหนดราคาขายสินค้า หรือบริการที่เป็นวัตถุดิบในตลาดสินค้าหรือบริการต้นน้ำหรือปลายน้ำในราคาที่สูงอย่างไม่เป็นธรรม.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่