ครม.อนุมัติงบกลาง 1.22 แสนล้าน ถมโครงการแจกเงินหมื่นผ่าน "ดิจิทัลวอลเล็ต"

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ครม.อนุมัติงบกลาง 1.22 แสนล้าน ถมโครงการแจกเงินหมื่นผ่าน "ดิจิทัลวอลเล็ต"

Date Time: 22 พ.ค. 2567 08:15 น.

Summary

  • ครม.อนุมัติหลักการออกร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้าน เพื่อนำไปสมทบสำหรับแจกเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต หลังเกลี่ยงบประมาณปี 67 ไม่ได้ตามเป้า “พิชัย” เล็งคลอดแพ็กเกจกระตุ้น ศก. ปั๊มจีดีพีโตเกิน 2.5% เปิดปฏิทินงบเพิ่มเติมใช้ได้เดือน ส.ค.67

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยจะมีการหารือวงเงินอีกครั้ง และในเร็วๆนี้ จะหารือในคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลัง เพื่อขอความเห็นชอบอีกครั้ง โดยในการประชุม ครม.ครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดถึงวงเงิน แต่ได้กำชับว่าให้ทำไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ครม.ได้เห็นชอบหลักการของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อนำมาเป็นแหล่งเงินในการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้จะเป็นไปตามกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับทั้ง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ และ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ โดยรายละเอียดทั้งหมด สำนักงบประมาณจะเสนอคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลัง พิจารณารายละเอียด และคาดว่าจะเสนอ ครม.อีกครั้งในวันที่ 28 พ.ค.2567 จากนั้นจึงเสนอกฎหมายเข้าสู่ขั้นตอนของรัฐสภาต่อไป

“การทำเรื่องนี้ เชื่อว่าจะเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้ หลังจากได้รับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ปี 2567 ซึ่งโตต่ำกว่าที่คิดไว้ แต่รัฐบาลก็ยังต้องหาทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาวควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างต่างๆของเศรษฐกิจ”

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบว่า แม้การเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมครั้งนี้จะไม่ได้พูดถึงวงเงิน แต่เบื้องต้นกำหนดกรอบวงเงินไว้แล้ว 122,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลเคยเปิดเผยว่า วงเงินที่ใช้ในโครงการนี้จำนวน 500,000 ล้านบาท มาจาก 3 แหล่ง ได้แก่ 1.เงินงบประมาณรายจ่ายปี 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท 2.การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ (ธ.ก.ส.) 172,300 ล้านบาท 3.การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท ซึ่งในครั้งแรกจะไปเกลี่ยงบจากโครงการต่างๆ แต่ในที่สุดไม่สามารถ ปรับลดงบประมาณได้ตามเป้า จึงต้องตั้งงบเพิ่มเติม หรืองบกลางปี 2567 โดยตั้งไว้ในงบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ เพื่อนำไปใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการจะคำนึงถึงกฎหมาย เช่น มาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ซึ่งกำหนดว่ารัฐต้องดำเนินนโยบายการคลังตามหลักการรักษาเสถียรภาพและการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน หลักความเป็นธรรมในสังคม และต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด และมาตรา 7 ซึ่งกำหนดว่าการดำเนินการใดๆของรัฐที่มีผลผูกพันทรัพย์สิน หรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ ต้องพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลัง

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้แสดงความคิดเห็นในที่ประชุม ครม. ว่ารัฐบาลอยากเห็นเศรษฐกิจไทย ปี 2567 ขยายตัวได้เกินกว่า 2.5% โดยควรหามาตรการต่างๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวให้มากกว่านี้

“รองนายกฯ คอมเมนต์ว่า ตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ปีนี้ที่ 2.5% เมื่อเทียบกับหลายประเทศเพื่อนบ้านเติบโตมากกว่าไทย หลายประเทศโตมากกว่า 5% ถ้าเราเติบโตแค่ 2.5% แม้จะเป็นตัวเลขที่ดีกว่าปีที่แล้ว แต่เราไม่ควรจะพึงพอใจแค่นี้ โดยควรหามาตรการกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยโตได้ตามศักยภาพ หรือโตให้มากกว่า 2.5%”

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบกรอบปฏิทินการออก พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติมกลางปีงบประมาณ 67 ที่ประชุม ครม.ได้สั่งการสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังไปเร่งพิจารณา ส่วนเงินที่จะมานำมาเพิ่มนั้น มาได้จาก 2 แหล่ง คือ 1.รายได้ใหม่ ซึ่งรัฐบาลมีรายได้ที่ไม่ได้บรรจุในงบประมาณ และ 2.การกู้ชดเชยขาดดุล สำหรับขั้นตอนการทำ พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติม กลางปีงบประมาณ 67 หลังจากเสนอ ครม.ผ่านแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภา ช่วงเดือน ก.ค.67 นี้

“ยืนยันจะไม่กระทบไทม์ไลน์โครงการดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน คือยังเปิดให้ลงทะเบียนในไตรมาส 3 และเริ่มใช้จ่ายในไตรมาส 4 ปี 2567 และขอย้ำว่าฐานะการคลังแข็งแกร่ง ไม่มีปัญหาการเงิน และไม่ถังแตกแน่นอน”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ