นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือเรื่องการกวาดล้างบัญชีม้าและเร่งรัดการคืนเงินให้ผู้เสียหายร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 15 พ.ค.67 ได้มีการกำหนดมาตรการใหม่ เริ่มต้นวันที่ 27 พ.ค.67 โดยให้ตรวจสอบบัญชีโมบายแบงกิ้งจำนวน 106 ล้านบัญชี ว่าเจ้าของบัญชีโมบายแบงกิ้งเป็นรายชื่อเดียวกับเจ้าของเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนไว้หรือไม่ หากพบรายชื่อไม่ตรงกันจะต้องทำให้เป็นรายชื่อเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะถูกระงับการใช้บริการโมบายแบงกิ้งนั้น
ในส่วนของ กสทช.ได้เตรียมประสานผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทั้งหมด ตรวจสอบรายชื่อผู้ใช้โมบายแบงกิ้งทั้งหมด 106 ล้านบัญชี โดยจะจำแนกว่าใช้บริการค่ายไหน ธนาคารอะไร และชื่อที่จดทะเบียนใช้บริการซิมมือถือเป็นใคร จากนั้นจะส่งข้อมูลไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)เพื่อส่งต่อไปยังธนาคารพาณิชย์ ตรวจสอบว่ารายชื่อจดทะเบียนซิมตรงกับรายชื่อที่ใช้เปิดบัญชีโมบายแบงกิ้งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กสทช.จะหลีกเลี่ยงการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทั้งหมด โดยจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเท่านั้น “การทำเรื่องนี้แบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกเริ่ม 27 พ.ค.67 โดย กสทช.จะประสานผู้ให้บริการมือถือจัดหมวดหมู่ข้อมูลผู้ใช้บริการโมบายแบงกิ้ง 106 ล้านบัญชี ต้องทำให้เสร็จภายใน 120 วัน เฟสที่ 2 คือ ป.ป.ง.และธนาคารพาณิชย์ต้องกำหนดมาตรการระงับการใช้บัญชีโมบายแบงกิ้งที่มีชื่อไม่ตรงกับชื่อที่จดทะเบียนใช้บริการซิมมือถือ เบื้องต้นคาดว่าอยู่ในสัดส่วน 30% ของ 106 ล้านบัญชี โดยต้องกำหนดเวลาให้แก้ไข มิเช่นนั้นจะถูกระงับให้บริการ จึงอยากให้ผู้ที่รู้ตัวว่าชื่อบัญชีไม่ตรงกับเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนไว้ให้ทยอยติดต่อธนาคารเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่