เปิดเทอม 2567 คนกรุงฯแบกค่าเล่าเรียนลูกหลาน ท่วม 2.9 หมื่นล้าน ค่าเทอมขึ้นต่อ ไม่รอเศรษฐกิจฟื้น

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดเทอม 2567 คนกรุงฯแบกค่าเล่าเรียนลูกหลาน ท่วม 2.9 หมื่นล้าน ค่าเทอมขึ้นต่อ ไม่รอเศรษฐกิจฟื้น

Date Time: 13 พ.ค. 2567 09:56 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • เปิดเทอมปี 2567 คนกรุงฯแบกค่าใช้จ่าย เล่าเรียนบุตรหลาน ท่วม! 2.9 หมื่นล้าน ค่าเทอมขึ้นต่อ ไม่รอเศรษฐกิจ สวนทางคุณภาพการศึกษาไทย แนวโน้มน่าห่วง เมื่อเกือบครึ่ง เริ่มมอง “อาชีพอิสระ” หาเงินได้มากกว่า จบปริญญาตรี ไม่สำคัญต่อการสมัครงานในอนาคต

Latest


นับเป็นช่วงเปิดเทอม ปีการศึกษาใหม่ที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้หนัก, ปีนี้เหนื่อย เพราะนอกจากเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่ดี ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของบุตร-หลาน ก็ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่าหนังสือ 

สะท้อนจาก ผลสำรวจความคิดเห็นผู้ปกครองทั่วประเทศ ของ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่เพิ่งออกมาล่าสุด ระบุ ปีนี้ไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจไทย รายได้ที่ได้รับมีน้อยลง แถมยังขาดสภาพคล่อง แต่ราคาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง กับการศึกษาของบุตร-หลาน หลายรายการ ยังมีราคาเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 

เทรนด์ค่าใช้จ่าย "การศึกษาไทย" ปรับสูงขึ้น 

ขณะในอีกมิติ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยว่า นอกจากเทรนด์ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น “การศึกษาไทย” ยังมีประเด็นแง่คุณภาพที่ต้องเร่งจัดการด้วย หลังจากผู้ปกครองเกือบครึ่ง เริ่มมองค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสวนทางผลลัพธ์ 

เจาะมูลค่าการใช้จ่ายในด้านการศึกษาสำหรับบุตร หลานของผู้ปกครองใน เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2567 รวมอยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3% แบ่งเป็น 

  • ค่าเทอม และค่าธรรมเนียม (คำนวณจากโรงเรียนรัฐและเอกชน ไม่รวมโรงเรียนนานาชาติ) โดยเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น 2.6% อยู่ที่ 24,430 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากโรงเรียนเอกชนบางแห่งมีการปรับค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสำหรับนักเรียนเข้าใหม่ เนื่องจากต้นทุนการทำธุรกิจอย่างค่าจ้างบุคลากร หรือค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา เช่น ค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน รองเท้า เป็นต้น เพิ่มขึ้น 1.9% จากปีก่อน หรือ2,750 ล้านบาท มาจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูง ขณะที่ผู้ปกครองควบคุมงบประมาณการซื้อชุดนักเรียน และเลือกซื้อที่มีการจัดโปรโมชั่น
  • ค่าเรียนพิเศษ/กวดวิชา และเสริมทักษะลดลง 0.7% จากผลสำรวจในปีที่ผ่านมา หรือมีมูลค่า 1,490 ล้านบาท โดยผู้ปกครองบางกลุ่มมีการปรับลดวิชาเรียน เลือกเรียนเฉพาะวิชาที่จำเป็น เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้นผู้ปกครองคงจะให้บุตรหลานเรียนกวดวิชาและเสริมทักษะเพิ่มเติม
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายรายวันสำหรับบุตรหลานไปโรงเรียนคงที่

ทำให้ “ผู้ปกครอง” จำเป็นต้องจัดสรรค่าใช้จ่าย เลือกตัดลดหรือประหยัดค่าใช้จ่ายใน ชีวิตประจำวันก้อนอื่นๆ ควบคู่กับการหาแหล่งรายได้อื่นเข้ามาเพิ่มทดแทนด้วย 

ค่าใช้จ่าย สวนทางคุณภาพ จบปริญญาตรี อาจหารายได้ ได้น้อยกว่า "อาชีพอิสระ"

ประเด็นนี่เอง ยังสะท้อน ถึงความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาที่นับวันจะสูงขึ้น เมื่อค่าใช้จ่ายเพื่อ การศึกษามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีชื่อเสียงจะมีการแข่งขันที่สูง หรือโรงเรียนที่มีหลักสูตรพิเศษอย่างภาษาต่างประเทศ หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้เกิดช่องว่างทางการศึกษามากขึ้น 

ขณะเดียวกัน ยังพบว่า ในทัศนคติการเรียนต่อระดับปริญญาตรีขึ้นไปมีลดลง จากผลสำรวจพบว่า ผู้ปกครองเกือบครึ่ง (49% ของกลุ่มตัวอย่าง) เห็นด้วยกับบุตรหลานที่เริ่ม มองว่าการเรียนจบปริญญาตรีหรือสูงกว่าไม่สำคัญต่อการสมัครงานในอนาคต 

ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าอาชีพอิสระหาเงินได้มากกว่า และปัจจุบันมีหลายคนที่ประสบความสำเร็จและสร้างรายได้จากการใช้เทคโนโลยี ในการสร้างรายได้จากการขายของออนไลน์ การเป็นอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) และการสร้างรายได้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งมีผลต่อ ตลาดแรงงานในระยะข้างหน้า

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ