นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่เก็บมา 10 ปี บริโภคได้หรือไม่ว่า ตามปกติข้าวสารที่เก็บในคลัง ก่อนที่จะนำไปบริโภค หรือส่งออก ผู้ที่ซื้อข้าวไปจะต้องปรับปรุงคุณภาพ เพื่อให้ได้มาตรฐานด้านการค้าและสุขอนามัยตามที่กำหนด มิใช่นำข้าวจากคลังที่เก็บไว้ไปจำหน่ายทันที ต้องปรับปรุงคุณภาพก่อนอยู่แล้ว “การปรับปรุงจะขึ้นอยู่กับสภาพของข้าว และเงื่อนไขข้อตกลง หรือมาตรฐานของผู้ซื้อ โดยการปรับปรุง เช่น ขัดสีเมล็ด ขจัดสิ่งเจือปน และอื่นๆที่จำเป็น เพื่อให้ผ่านมาตรฐานก่อนจำหน่าย ไม่มีบริษัทใดยอมเสียชื่อเสียงขายข้าวไม่ดี ส่วนข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลลอตสุดท้ายนี้ ก็ต้องปรับปรุงคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และการประมูลครั้งนี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเป็นผู้เปิดประมูลและให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยราคาประมูลจะเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของข้าวว่าดีหรือไม่ เพราะคงไม่มีโรงสี ผู้ส่งออกหรือผู้ประกอบการ ยอมเสนอราคาซื้อสูงกว่าคุณภาพข้าวที่ประมูลซื้อแน่นอน”
สำหรับขั้นตอนการประมูลนั้น อคส.จะเปิดให้ผู้เข้าร่วมประมูล ได้ตรวจสอบคุณภาพข้าวทั้ง 2 คลัง ก่อนเสนอราคาซื้อ แต่ อคส.จะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าประมูลว่าเป็นผู้ที่ไม่เคยทำความเสียหายให้ราชการและจะให้ผู้ผ่านคุณสมบัติ ยื่นซองเสนอราคา เปิดซองและประกาศผลภายในวันเดียวกัน โดยการประมูลครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลไม่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บสต๊อก อีกทั้งยังมีรายได้ส่งคืนรัฐ และส่วนหนึ่งจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการ ทั้งนี้ ติดตามการเปิดประมูลได้ที่เว็บไซต์ของ อคส. กรมการค้าภายใน และกระทรวงพาณิชย์
นายวัฒนศักย์กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบข้าวสารหอมมะลิ ที่เก็บในโกดัง 2 แห่ง ใน จ.สุรินทร์ รวม 15,000 ตันที่เตรียมนำมาเปิดประมูลเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า บริษัท โคเทคนา อินสเปคชั่น (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบกลางตามมาตรฐานสากล ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ตรวจสอบทุกขั้นตอน โดยผ่ากองนำข้าวจากทั้ง 2 โกดัง รวมทั้งสิ้น 9 กองมาตรวจสอบ สำหรับการเก็บตัวอย่างการตรวจสอบ มีผู้สังเกตการณ์ทั้งโรงสี ผู้ส่งออกและสื่อมวลชน ตั้งแต่ขั้นตอนการเปิดประตูคลัง เก็บตัวอย่างข้าวจนถึงขั้นตอนการหุง เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ทดลองกิน ซึ่งประตูโกดังมีกุญแจ 3 ดอก เก็บรักษาโดย ผู้รับผิดชอบ 3 หน่วยงาน คือ เจ้าของโกดัง อคส.และพาณิชย์จังหวัด โดยโกดังทั้ง 2 แห่งจัดเก็บและรมยาตามระยะเวลาของสัญญาจ้าง “ผลการตรวจสอบพบว่า ทางกายภาพเมล็ดข้าวยังมีความสมบูรณ์ ไม่มีลักษณะเสียหายจากการถูกทำลายด้วยแมลง แต่มีฝุ่นและมีสีเหลืองงาตามเวลาที่เก็บรักษา และภายหลังจากโรงสีและผู้ส่งออกที่ร่วมการตรวจสอบทดลองทานแล้ว พบว่าข้าวไม่แข็งกระด้าง ยังมีความนุ่ม เป็นลักษณะข้าวเก่า ซึ่งหลายประเทศมีความต้องการข้าวที่มีลักษณะเช่นนี้”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่