เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลุ้นได้เงินคืน ดีอีเร่งออก พ.ร.ก.คืนเงินที่อายัดจากโจรออนไลน์

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงความคืบหน้าการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ของเดือน เม.ย.67

โดยนายประเสริฐกล่าวว่า ได้พิจารณาออกพระราชกำหนดเพื่อเร่งคืนเงินให้กับผู้เสียหายจากโจรออนไลน์ เนื่องจาก ปปง.ได้ยึดทรัพย์ของกลางเป็นเงินสดและทรัพย์สินหลายพันล้านบาท ซึ่งกฎหมายปกติของ ปปง.ผู้ที่ได้รับความเสียหายต้องรอเป็นเวลานาน กรณีเร็วสุด 3 ปี กว่าจะได้รับเงินที่ถูกหลอกลวงคืน โดยการทำงานในระยะต่อไป จะมีการเพิ่มโทษการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันการโอนเงินแบบผิดกฎหมายของคนร้ายโดยการใช้สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะที่เป็นแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ผิดกฎหมายด้วย

“การรับแจ้งความคดีออนไลน์ในเดือน เม.ย.2567 เฉลี่ย 992 คดี/วัน สูงกว่า การแจ้งความ ใน มี.ค.2567 ที่มีการแจ้งความเฉลี่ย 855 คดี/วัน แต่ในเดือน เม.ย.มีมูลค่าความเสียหายเฉลี่ย 110 ล้านบาท/วัน ลดลงจากเดือน มี.ค.ที่มีมูลค่าความเสียหายเฉลี่ย 149 ล้านบาท/วัน แต่ยังไม่พอใจ ต้องทำให้ดีกว่านี้”

สำหรับผลการดำเนินงานในเดือน เม.ย. 67 มีการจับกุมคดีออนไลน์ทุกประเภท 6,624 คน เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า เทียบกับ 2,430 คนต่อเดือน ช่วง ม.ค.-มี.ค.67 โดยการจับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์ 3,667 คน เพิ่มขึ้น 3.1 เท่า เทียบกับการจับกุมเฉลี่ย 1,174 คนต่อเดือน ช่วง ม.ค.-มี.ค.67 และมีการจับกุมคดีบัญชีม้า-ซิมม้า 361 คน เพิ่มขึ้น 1.9 เท่า เทียบกับการจับกุมเฉลี่ย 187 คนต่อเดือน ช่วง ม.ค.-มี.ค.67 ขณะเดียวกัน มีการปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมายทุกประเภท 16,158 รายการ เพิ่มขึ้น 18 เท่า จาก เม.ย.66 โดยปิดเว็บพนัน 6,515 รายการ เพิ่มขึ้น 38.8 เท่า จาก เม.ย.66 ขณะที่ระงับบัญชีม้าแล้วกว่า 700,000 บัญชี แบ่งเป็นธนาคารระงับเอง 300,000 บัญชี ศูนย์ AOC ระงับ 101,375 บัญชี ปปง.ปิด 325,586 บัญชี

ขณะเดียวกัน มีการแก้ไขปัญหาและกวาดล้างซิมม้า โดยตำรวจดีอีระงับซิมม้า-ซิมต้องสงสัยแล้ว 800,000 หมายเลข และมีการระงับหมายเลขโทร.ออกเกิน 100 ครั้ง/วันแล้ว 36,641 หมายเลข ส่วนที่สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์การลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนสำหรับผู้ถือครองซิมการ์ดมากกว่า 100 ซิม มีผู้มายืนยันตัวตน 2.58 ล้านหมายเลข และยังไม่มายืนยันตัวตน 2.5 ล้านหมายเลข จึงถูกระงับแล้ว 1.46 ล้านหมายเลข และอยู่ระหว่างระงับ 1.04 ล้านหมายเลข

นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช. ร่วมกับกระทรวงกลาโหม และตำรวจเร่งกวาดล้าง จับกุมผู้กระทำความผิดในการใช้เสาและสายสัญญาณสื่อสารที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมให้หันเสาสัญญาณเข้าในประเทศ นอกจากนี้ ศูนย์ AOC ตำรวจ และ กสทช.ระหว่างจัดอบรมกำลังพลของกองทัพให้ตรวจสอบเสาและสายสัญญาณสื่อสารผิดกฎหมายตามแนวชายแดน และจับกุมการลักลอบเดินสายอินเตอร์เน็ตผ่านชายแดนไปประเทศกัมพูชา อีกทั้งมีร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยเฝ้าระวังชาวต่างชาติหลอกลวงคนไทยไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนมีการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ และสมาชิก ASEAN นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ส่งข้อมูลผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้กระทรวงดีอีปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์ม และป้องกันมิให้มิจฉาชีพนำทรัพย์สินไปฟอกเงิน ส่วน สคบ.เร่งจัดทำประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์โดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. ...เพื่อแก้ปัญหาบริการเก็บเงินปลายทาง.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่