คอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้ เพิ่มขึ้น 4,600% ผลพวงคนโสดพุ่ง! เลี้ยงหมา-แมว เหมือนลูก ยูนิต 2 ล้าน มาแรง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้ เพิ่มขึ้น 4,600% ผลพวงคนโสดพุ่ง! เลี้ยงหมา-แมว เหมือนลูก ยูนิต 2 ล้าน มาแรง

Date Time: 9 พ.ค. 2567 14:05 น.

Video

สาเหตุที่ทำให้ Intel อดีตยักษ์ใหญ่ชิปโลก ล้าหลังยุค AI | Digital Frontiers

Summary

  • “แอล ดับเบิลยู เอส” เผย คอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้ พื้นที่ กทม.-ปริมณฑล โตแรง 4,600% ในรอบกว่า 10 ปี ผลพวงคนโสดพุ่ง เลี้ยงหมา-แมว เหมือนลูก พร้อมจ่าย 2 ล้านต่อยูนิต ส่วนกลางต้องพร้อม กับ 5 ทำเลที่น่าจับตามอง

Latest


ผลสำรวจทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาอาคารชุดเพื่อสัตว์เลี้ยงในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ของ “แอล ดับเบิลยู เอส” บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ณ สิ้นปี 2566 พบในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล มีจำนวนอาคารชุด หรือคอนโดมิเนียม ประเภทที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ รวมทั้งสิ้นจำนวน 23,031 หน่วย เพิ่มขึ้น 4,600.20% จาก 490 หน่วย  เมื่อเทียบกับปี 2554 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 353.86% ต่อปี 

คนโสดพุ่ง! คอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้ โตแรง 

สะท้อนให้เห็นความต้องการที่อยู่อาศัยในกลุ่มนี้ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องหันมาพัฒนาโครงการคอนโดฯ ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อในกลุ่มที่มีสัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวที่เรียกว่า Pet Parent หรือ Pet Humanization ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชากรที่เป็นโสด หรือแต่งงานแล้วไม่อยากมีลูก และเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวมากกว่าที่จะเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เหมือนในอดีต

4 ปัจจัยเอื้อตลาด ยิ่งใกล้คลินิกสัตว์เลี้ยง คนยิ่งนิยม 

 

จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว แอล. ดับเบิลยู. เอส. ได้วิเคราะห์ทำเลที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดฯ ที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ โดยคำนึงถึง 4 ปัจจัยหลักประกอบด้วย 

  1. ทำเลใกล้ระบบขนส่งมวลชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสำหรับการเดินทางไปทำงานข้างนอก โดยควรเลือกโครงการอาคารชุดที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีระบบขนส่งมวลชนเชื่อมต่อไปยังจุดอื่นในระยะ 3-5 กม. เช่น รถไฟฟ้า BTS, MRT โดยควรอยู่ในระยะเดินได้ (ภายใน 1 กม.)  
  2. ทำเลใกล้กับสาธารณูปโภคสำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น โรงพยาบาลสัตว์ หรือ คลินิกสัตว์เลี้ยง ในรัศมีพื้นที่ 3-5 กม. จากผลการสำรวจของ LWS พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความต้องการโครงการอาคารชุดที่อยู่กับโรงพยาบาลหรือคลินิกสัตว์เลี้ยง หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถรับการรักษาได้ทันท่วงที 
  3. ทำเลโครงการตั้งใกล้กับพื้นที่ค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ ที่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเข้าได้ เพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม Pet Parent ที่นิยมออกไปทำกิจกรรม หรือพบปะสังสรรค์ตามสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของคอมมูนิตี้สัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียด และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ศูนย์การค้าที่รองรับสัตว์เลี้ยงจะถูกออกแบบให้มีร้านขายอาหารสัตว์หรืออุปกรณ์สัตว์เลี้ยงมาด้วย นอกจากพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นพักผ่อนแล้วยังสามารถแวะซื้อของใช้จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย 
  4. ทำเลโครงการตั้งใกล้สวนสาธารณะ ควรอยู่ในระยะทางการเดินไม่เกิน 15 นาที จากผลการสำรวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 56% ของคนมีสัตว์เลี้ยง ชอบพาไปเดินเล่นออกกำลังกายที่สวนสาธารณะมากที่สุด 

 

5 ทำเลมาแรงของ Pet Parents

  1. ปทุมวัน เป็นทำเลใจกลางเมืองที่พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งศูนย์การค้าที่รองรับสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาลสัตว์ถึง 2 โรงพยาบาล และติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีกด้วย ประกอบกับในทำเลมียูนิตอาคารชุดที่เลี้ยงสัตว์ซึ่งขายหมดไปแล้ว จึงเป็นโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่ 
  2. คลองสาน ทำเลในฝั่งธนบุรีไม่ไกลจากตัวเมือง พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งสวนสาธารณะ โรงพยาบาลสัตว์ และในทำเลยังไม่มีโครงการอาคารชุดที่รองรับสัตว์เลี้ยง เป็นโอกาสในการเปิดตัวโครงการใหม่ 
  3. บางซื่อ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับสัตว์เลี้ยงทั้ง โรงพยาบาลสัตว์และสวนสาธารณะ และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีแดง รวมไปถึงยังไม่มีโครงการที่รองรับสัตว์เลี้ยงในทำเล 
  4. แจ้งวัฒนะ เป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับสัตว์เลี้ยงครบ โรงพยาบาล ร้านค้าสัตว์เลี้ยง สวนสาธารณะ และศูนย์การค้าที่รองรับสัตว์เลี้ยงอย่าง เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และในทำเลยังไม่มีโครงการอาคารชุดที่รองรับสัตว์เลี้ยง เป็นโอกาสในการเปิดตัวโครงการ และยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดในอนาคตที่เข้ามาเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการอีกด้วย 
  5. โชคชัย 4 ถือว่าเป็นทำเลยอดนิยมของกลุ่ม Pet Parents เพราะเป็นทำเลที่มี ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสวิลด์ และ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ที่เป็นคอมมูนิตี้คนเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และยังมีโรงพยาบาลสัตว์ ร้านค้าสัตว์เลี้ยง สวนสาธารณะรองรับโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีโครงการอาคารชุดคู่แข่งยังมีไม่มาก เป็นโอกาสในการพัฒนาโครงการ 

 

ทั้งนี้ "ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ" กรรมการผู้จัดการ แอล ดับเบิลยู เอส ยังให้มุมมองว่า การพัฒนาโครงการอาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาโครงการอาคารชุดที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง จากผลการสำรวจพบว่าผู้ซื้ออาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้พร้อมจ่ายที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่เกิน 2 ล้านบาทต่อหน่วย 

ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยง จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาโครงการ ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป.

ที่มา : แอล ดับเบิลยู เอส

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ