นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กรมได้จัด “ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน” ออกปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.-13 เม.ย.67 โดยในส่วนกลางประสานความร่วมมือกับกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน และในส่วนภูมิภาคได้บูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และพลังงานจังหวัด ในการตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเป็นการตรวจสอบซ้ำจากการดำเนินการปกติของเจ้าหน้าที่สายตรวจชั่งตวงวัดของกรมอยู่แล้ว
โดยชุดเฉพาะกิจนี้ มุ่งเน้นตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว เช่น ถนนพหลโยธินที่มุ่งสู่ภาคเหนือ, ถนนเพชรเกษม และถนนพระราม 2 ที่มุ่งสู่ภาคใต้, ถนนบางนา-ตราด ที่มุ่งสู่ภาคตะวันออก และถนนมิตรภาพ ที่มุ่งสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น เพื่อป้องปรามไม่ให้สถานีบริการน้ำมันเอาเปรียบผู้บริโภคที่เข้าไปใช้บริการจำนวนมากในช่วงเทศกาล ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.-1 เม.ย.67 ได้ตรวจสอบไปแล้ว 840 สถานี รวม 17,005 หัวจ่าย พบว่าถูกต้อง 838 สถานี 16,981 หัวจ่าย และผิด 2 สถานี 24 หัวจ่าย เป็นกรณีสิ้นอายุคำรับรอง ซึ่งได้ดำเนินคดีแล้ว สำหรับการตรวจสอบตามปกติวันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.67 ได้ตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันแล้ว 4,315 สถานี 68,721 หัวจ่าย
“แนะนำให้ประชาชนสังเกตเบื้องต้นที่ตู้จ่ายน้ำมันว่ามีหนังสือสำคัญแสดงเครื่องหมายคำรับรองที่กรมออกให้หรือไม่ มีการแสดงราคาขายต่อลิตรที่ตู้จ่ายหรือไม่ และราคาต้องตรงกับที่แสดงไว้หน้าสถานีบริการ นอกจากนี้ ก่อนเติมน้ำมัน ยอดขายและจำนวนลิตรต้องเป็นเลขศูนย์ และเมื่อเติมเสร็จให้ดูยอดขายกับจำนวนลิตรให้ถูกต้องด้วย”
กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเติมน้ำมัน แจ้งได้ที่สายด่วนกรม โทร.1569 แอปไลน์ @MR.DIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากพบสถานีบริการใดใช้หัวจ่ายที่คลาดเคลื่อนหรือไม่มีเครื่องหมายคำรับรอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสถานีบริการใดดัดแปลงหัวจ่ายให้คลาดเคลื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่