เป็นหนี้ กยศ.ต้องใช้คืน!

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เป็นหนี้ กยศ.ต้องใช้คืน!

Date Time: 2 เม.ย. 2567 06:30 น.

Latest

HSBC ชี้เศรษฐกิจไทยโตกว่าที่คิด หลังรัฐเร่งลงทุน กระตุ้นบริโภค ต่างชาติเชื่อมั่น จ่อลงทุนไทยเพิ่ม

กยศ. หรือกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาที่มีฐานะยากจนให้ศึกษาต่อจนจบปริญญาตรี ไม่ใช่กองทุนแจกฟรี แต่เมื่อกู้ยืมไปแล้ว ต้องชำระหนี้ตามเงื่อนไข

เพราะโอกาสทางการศึกษา ล้วนเป็นกำลังสำคัญในการทำประโยชน์ให้แก่สังคม รวมถึงขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าได้

นับตั้งแต่ปล่อยกู้เมื่อปี 2541 เป็นต้นมา ได้สร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้เรียนต่อจนจบปริญญาตรี ซึ่งเงินกู้ กยศ.ได้ช่วยทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นนับล้านคนแล้ว

โดย ณ ข้อมูล วันที่ 31 ม.ค.67 มีผู้กู้ยืมเงินกองทุน 6,809,339 ราย รวมวงเงินให้กู้ 760,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างชำระหนี้ 3,501,935 ราย อยู่ในช่วงปลอดหนี้ 1,368,761 ราย ชำระหนี้เสร็จสิ้น 1,866,022 ราย เสียชีวิต ทุพพลภาพ 72,621 ราย ผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป 2.1 ล้านคน คิดเป็นเงินต้น 97,000 ล้านบาท

นั่นเป็นเพราะมีรุ่นพี่ที่กู้เงิน กยศ.แล้วชักดาบ ไม่ยอมชำระหนี้ ทำให้ภาครัฐต้องใช้มาตรการบังคับ หักคอ ด้วยการออกกฎหมายหักเงินใช้หนี้ และยังใช้ระบบภาษีสรรพากรมาเชื่อมข้อมูล เพื่อบีบให้ผู้กู้มาชำระหนี้ด้วย เพราะผู้กู้บางคน เป็นหนี้ กยศ.ไม่ยอมใช้หนี้ แต่ใช้ชีวิตหรูหรา มีบ้าน มีรถ มีแบรนด์เนม

เมื่อเป็นหนี้ ไม่ยอมชำระหนี้ เงินหมุนเวียน ที่ กยศ.จะนำไปปล่อยกู้ให้รุ่นต่อไป มีวงเงินจำกัด ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาวิกฤติโควิด-19 ทำให้ต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ. กยศ. ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปี 66 คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 1% ต่อปี กรณีผิดนัดชำระลดอัตราเบี้ยปรับเหลือไม่เกิน 0.5% ต่อปี และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในทุกกรณี

นอกจากนี้ กองทุน ยังขยายโอกาสให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนให้เข้าถึงการศึกษาที่หลากหลายในหลักสูตรระยะสั้นเพื่อ Reskill Upskill ครอบคลุมหลักสูตรอาชีพ เพื่อยกระดับทักษะ สมรรถนะ เสริมทักษะเฉพาะทางสำหรับวิชาชีพต่างๆ ทั้งนี้ จะสามารถช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีหรืออยู่ระหว่างการบังคับคดีให้สามารถผ่อนผันการชำระเงินคืน ปรับโครงสร้างหนี้ หรือแปลงหนี้ใหม่ ตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด

อีกทั้งยังมีการปรับหลักเกณฑ์สำคัญ คือ ลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่ ซึ่งกำหนดให้นำเงินที่ผู้กู้ยืมเงินชำระไปหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด และเงินเพิ่มตามลำดับ ปัจจุบันกองทุนอยู่ระหว่างปรับปรุงระบบการตัดชำระหนี้เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ เมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์แล้วกองทุนจะนำยอดรับชำระเงินทุกรายการตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.66 มาคำนวณการรับชำระใหม่อีกครั้งและปรับข้อมูลให้ถูกต้อง โดยจะนำเงินที่ได้รับมาหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใดและเงินเพิ่มตามลำดับ และจะคำนวณเบี้ยปรับใหม่ จากเดิม 7.5% เหลือเพียง 0.5% ซึ่งผู้กู้ยืมเงินจะไม่เสียสิทธิอันพึงได้ตามกฎหมายหรือได้รับผลกระทบใดๆ

และจากการแก้กฎหมาย ประกอบกับรุ่นพี่ ชักดาบผิดนัดชำระหนี้ ทำให้กองทุน กยศ.มีเงินทุนหมุนเวียนน้อยลง กยศ.จึงต้องเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐวงเงิน 19,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนปล่อยกู้ให้นักเรียน นักศึกษาในรุ่นต่อๆไปได้

การขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพิ่มครั้งนี้ เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จึงไม่สนับสนุน ไม่เห็นด้วย การเสนอแก้ไข พ.ร.บ.กองทุน กยศ.เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่าปรับผิดนัดชำระ และอีกหลายประการ โดยเฉพาะ การลดค่าปรับผิดนัดชำระ จากเดิม 7.5% เหลือเพียง 0.5% นั้น เป็นการเปิดช่องให้ผู้กู้ยืมเงิน กยศ.ชักดาบ เบี้ยวหนี้ เหนียวหนี้ ไม่ผ่อนชำระหนี้คืนกองทุน กยศ.ตามกำหนดเวลา!!

การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.กองทุน กยศ.นี้ ถือเป็นผลงานชิ้นโบดำ ที่สร้างผลงานไว้ให้ผู้กู้เงิน กยศ.ไม่มีวินัยทางการเงิน เป็นหนี้แล้วไม่ต้องใช้ หรือใช้หนี้ช้าก็ได้ เพราะเสียค่าปรับแบบจิ๊บๆๆ ทำให้กองทุน กยศ.มีเงินทุนหมุนเวียน เป็นทุนการศึกษาในปีถัดไป น้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะการลดค่าปรับผิดนัดชำระ ทำให้เงิน กยศ.หายไปเกือบปีละ 15,000 ล้านบาท

เมื่อเงินหายไป จึงเป็นที่มา ที่ กยศ.ต้องของบอุดหนุนจากรัฐบาล เพื่อนำมาปล่อยกู้ให้นักเรียน นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้มีโอกาสเล่าเรียน เพราะการศึกษา ถือเป็นจุดเริ่มที่ดีของชีวิต และช่วยยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนเบี้ยวหนี้หลายล้านคน แต่ยังมีคนดี มีวินัยการเงินที่ดี เมื่อทำดี ต้องได้รับการยกย่อง “กยศ.จึงได้ออกเกียรติบัตรผู้กู้ยืมเงินที่มีประวัติการชำระเงินคืนดี 2.9 ล้านราย แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับดีเลิศ ระดับดีเยี่ยม และระดับดี เพื่อขอบคุณและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้กู้ยืมเงินรุ่นพี่ที่มีความรับผิดชอบและมีวินัยทางการเงินที่ดีในการมอบโอกาสทางการศึกษาที่มีค่าให้แก่รุ่นน้อง

และกลุ่มผู้กู้ยืมที่ไม่เคยผิดนัดชำระและผู้กู้ยืมที่อยู่ในช่วงปลอดหนี้ หากมาชำระหนี้ปิดบัญชีจะได้รับการลดหย่อนเงินต้น 3% ณ วันที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ถือเป็นผู้กู้ยืมเงินที่มีจิตสำนึกความรับผิดชอบและมีวินัยทางการเงินที่ดี เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษารุ่นน้องต่อไป

เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นหนี้ กองทุน กยศ.แล้ว ต้องใช้คืน เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาคนอื่นๆต่อไป.

ดวงพร อุดมทิพย์

คลิกอ่านคอลัมน์ “The Issue” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ