พิษกฎหมายใหม่ กยศ.ขอเงินรัฐ 1.9 หมื่นล้าน ปล่อยกู้นักเรียนใหม่

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานะกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) มีฐานะการเงินลดลง จำเป็นต้องขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาล 19,000 ล้านบาท เพื่อนำมาปล่อยกู้ให้กับนักเรียน นักศึกษา ส่วนปัจจัยที่ทำให้ฐานะกองทุน กยศ.ลดลง เนื่องจากหลังจากมีการแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่มีผลบังคับใช้เมื่อปี 65 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระ จากเดิม 7.5 % เหลือ 0.5 % ต่อปี นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนลำดับการตัดหนี้ จากเดิมกรณีที่ลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระ เมื่อมีการชำระหนี้เข้ามา จะเริ่มจากการตัดในส่วนของเบี้ยปรับก่อน ตามมาด้วยภาระดอกเบี้ยที่ค้าง และสุดท้ายเหลือเท่าไหร่ถึงตัดเงินต้น เปลี่ยนเป็นกำหนดให้นำเงินที่ผู้กู้ยืมเงินชำระไปหักต้นเงินเฉพาะส่วนที่ครบกำหนดดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด และเงินเพิ่มตามลำดับ ทำให้กองทุน กยศ.มีเงินทุนหมุนเวียนน้อยลง

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุน กยศ.กล่าวว่า การเปลี่ยนลำดับการชำระหนี้ใหม่ ทำให้กองทุน กยศ.จะต้องคืนเงินให้กับผู้กู้ที่เมื่อคำนวณออกมาแล้ว พบว่า มีการชำระหนี้เกินกว่าเงินต้นที่กู้ยืม รวมแล้ว 6,000 ล้านบาท สำหรับปีการศึกษา 67 นี้ กยศ.ได้ตั้งวงเงินที่จะปล่อยกู้ 48,000 ล้านบาท ซึ่ง ณ 31 ม.ค.67 กองทุน กยศ.มีการให้กู้ยืมไปแล้วสะสมรวม 6.8 ล้านคน เป็นจำนวนเงินให้กู้ รวม 760,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีลูกหนี้ที่อยู่ในระหว่างการชำระหนี้ 3.5 ล้านคน และมีการผิดนัดชำระหนี้ รวม 2.1 ล้านคน คิดเป็นเงินต้น 97,000 ล้านบาท.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่