นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 42 ประจำปี 67” ณ ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดขึ้นวันที่ 28 มี.ค.-1 เม.ย.67 โดยกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวและตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว หรือ Tourism Hub โดยต่อยอดพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างรอบด้าน เพื่อให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ ยกระดับเมืองรองให้เป็นเมืองหลักด้านท่องเที่ยว สร้างรายได้การท่องเที่ยวในทุกพื้นที่ ด้วยศักยภาพของ Soft Power of Thailand ที่ทรงพลังและแข็งแกร่ง ที่สามารถชูเป็นจุดขายได้ “การจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยเป็นโอกาสดีที่จะสะท้อนภาพการท่องเที่ยวไทยให้ชาวไทยและต่างประเทศได้สัมผัส ด้วยหัวใจที่คำนึงถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และรักษารากเหง้าวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว เพื่อร่วมกันส่งมอบความสุข อมยิ้ม และมอบความหมายแก่นักท่องเที่ยวอย่างลึกซึ้งในทุกมิติ”
น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เนรมิตพื้นที่จัดงาน โดยยกทัพพลัง Soft Power และวัฒนธรรมย่อยมาเป็นจุดขายสะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นและแหล่งท่องเที่ยวแต่ละภูมิภาค คู่กับการนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรอง โดยจัดเอกลักษณ์ 5 ภูมิภาค ด้านประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ภายใต้ 9 โซนหลัก “ทุกครั้งที่มีเทศกาลเที่ยวเมืองไทย เป็นโอกาสให้ประชาชนได้สัมผัสบรรยากาศความสุข จากการเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยภายในงานเดียว ช่วยเพิ่มการตัดสินใจไปเที่ยวสถานที่จริง คาดจะมีผู้เข้าร่วม 5 วัน กว่า 150,000 คน สร้างการรับรู้ 20 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้จ้างงาน 10 ล้านบาท สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1,400-1,500 ล้านบาท”
ทั้งนี้ ภายในงานมี 9 โซนหลัก โซนที่ 1 Amazing Thailand พบประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ LED Box มุมมองภาพรอบตัวและ Amazing Thailand VR Dome ที่จะพาผจญภัยท่องเที่ยวเสมือนจริง โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก “Colorful Burapha” นำเสนอแลนด์มาร์ก ประภาคารบางเบ้า เกาะช้าง และหัวแหวนพลอย จ.จันทบุรี ตอกย้ำความอุดมสมบูรณ์ผ่านวัฒนธรรมอาหารทะเลและอาหารถิ่นพร้อมเสิร์ฟกว่า 50 ร้าน โซนที่ 3 หมู่บ้านภาคกลาง โดดเด่นด้วยหมู่เรือนไทยภาคกลาง ประดิษฐานพระแก้วมรกตให้สักการะ พร้อมรื่นเริงกับธีม “งานวัด” ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน พร้อมบรรยากาศ “สงกรานต์มนต์รักลูกทุ่ง”
โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ ชวนแอ่วล้านนาด้วยคอนเซปต์ “Faithival #เล่าเรื่องป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง” พาสัมผัส “งานวัดภาคเหนือ” เช็กอินแลนด์มาร์ก องค์พระธาตุลำปางหลวง พร้อมทำบุญสรงน้ำพระแก้วมรกตลำปาง อาหารพื้นเมืองเหนือ เช่น ข้าวซอยใบเหมี้ยง จ.ลำปาง ข้าวเปิ๊บ บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้ ต้อนรับหลบเรินอย่างอบอุ่นกับคอนเซปต์ “Southern Village หมู่บ้านภาคใต้ #หลบใต้บ้านเรา” เสิร์ฟอัตลักษณ์พหุวัฒนธรรมตั้งแต่ก้าวผ่านซุ้มประตูสีสันร่วมสมัย ลายผ้าปาเต๊ะ ผ้าบาติก และลูกปัดโนรา เช็กอินหอนาฬิกาเบตง ชิมอาหารปักษ์ใต้แท้ๆ โซนที่ 6 หมู่บ้านตะวันออกเฉียงเหนือ หลงรักถิ่นอีสานไปกับแนวคิด “Isan Festi “เว้า” #เล่าเรื่องเมืองอีสาน” ในบรรยากาศสีสันสดใส และจุดถ่ายภาพ ISAN SoftPower ได้แก่ หน้ากากผีตาโขน มวยโบราณ และซุ้มประตูประเพณีแห่ต้นดอกไม้ จ.เลย โซนที่ 7 พันธมิตรท่องเที่ยวไทย รวมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว โซนที่ 8 จัดเต็มความสนุกสนาน การแสดงดนตรีศิลปินทุกวัน โซนที่ 9 Sustainable Tourism Goals ตอกย้ำหมุดหมายการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่