ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเป็นเครื่องสะท้อนภาพผลกระทบของปัญหาเศรษฐกิจ, หนี้ครัวเรือน และกำลังซื้ออ่อนแอของไทยได้เป็นอย่างดี ภายใต้ดอกเบี้ยสินเชื่อปรับขึ้น และยังไม่มีแนวโน้มลดลง
ขณะที่ความท้าทายอาจเป็นความไม่สมดุลกันระหว่างซัพพลายสะสมรอขายที่อยู่ในระดับสูง กับดีมานด์ความต้องการของคนที่ลดน้อยถอยลง ทั้งปัญหาการเข้าไม่ถึงสินเชื่อ และโครงสร้างประชากรที่มีทิศทางลดลง และเป็นสังคมสูงวัย ส่งผลอสังหาฯ แบกต้นทุนธุรกิจอ่วมจากสต๊อกเหลือขายจำนวนมาก
ข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผย ขณะนี้ทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีคอนโดมิเนียมรอขายสะสมกว่า 8.4 หมื่นยูนิต โดยมากกว่าครึ่งอยู่ในกลุ่มระดับราคาระหว่าง 1-3 ล้านบาท
โดยพื้นที่ เมืองสมุทรปราการ บางนา และนนทบุรี มีคอนโดฯ ที่สร้างเสร็จรอขาย สูงสุด คิดเป็น 26.1% ของสต๊อกคอนโดฯ สะสมทั้งหมดในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล แบ่งเป็นหลักๆ ดังนี้
ทั้งนี้อาจสรุปได้ว่า การลงทุนโครงการคอนโดฯ ในทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังต้องระมัดระวังสูงในกลุ่มผู้ประกอบการ เพราะด้วยจำนวนยูนิตรอขายสะสมสูงถึง 8.4 หมื่นยูนิตนั้นถูกคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 2 ปีถึงจะระบายหมด ขณะกลุ่มที่ยังน่าห่วงคือ คอนโดฯ ราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าจะมีค่าเฉลี่ยอัตราการจองซื้อต่อเดือนสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ แต่ยังคงมีซัพพลายเหลือขายเยอะ.
ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney