มีการคาดการณ์ด้วยข้อมูลประชากรโลก ว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวและที่พักทั่วโลก ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว และนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่สามารถเดินทางไปยังต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นนับสามเท่า ภายในปี 2576
นั่นทำให้ ดาวเด่นอย่างประเทศยักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะ “ประเทศไทย” อาจต้องปรับตัวเพื่อรอรับแรงกระแทกใหญ่ที่ว่า
ข้อมูลจาก SiteMinder แพลตฟอร์ม การจัดการโรงแรมแบบครบวงจร ที่มีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดย แบรด ไฮนส์ รองประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค วิเคราะห์ว่า หลังจากในปี 2543 ราว 3% ของประชากรจีนเท่านั้นที่จัดอยู่ในกลุ่มชนชั้นกลาง
ผ่านไปไม่กี่ปี ต่อมาในปี 2561 ประชากรจีนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ หรือประมาณ 700 ล้านคน ก็ได้ก้าวเข้าสู่กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 2576 สัดส่วนประชากรชาวจีนกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปัจจุบัน และจะเป็นกลุ่มที่มีเงินเพียงพอ ในการใช้จ่ายเพื่อเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น
เช่นเดียวกับประเทศอินเดีย ซึ่งปัจจุบันขึ้นแท่นเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน โดยมีสัดส่วนชนชั้นกลาง คิดเป็นสัดส่วน 31% ของประชากรทั้งประเทศ
ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 38% ภายในปี 2574 อีกทั้งยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2576 จำนวนครอบครัวชาวอินเดียมากกว่า 3 เท่า จะมีกำลังซื้อมากพอในการเดินทางระหว่างประเทศได้ เมื่อเทียบกับปัจจุบัน
แล้วผลกระทบเชิงบวกของนักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดียที่มีต่อการจองที่พักในอีก 10 ปีข้างหน้า จะเป็นอย่างไร?
ในประเด็นนี้ SiteMinder ประเมินจากอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร ความต้องการในการเดินทาง รวมถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวแล้ว ระบุว่า จะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการจองห้องพัก อย่างน่าจับตามอง
ยกตัวอย่าง เช่น ประเทศไทย ที่เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ร่วมลงนามข้อตกลงยกเลิกการขอวีซ่าถาวรสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงสร้างความน่าดึงดูดต่อนักท่องเที่ยวจีน
ซึ่งภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการประกาศข้อตกลงยกเว้นวีซ่าถาวรดังกล่าว ผู้ให้บริการจองที่พักและบริการการท่องเที่ยวออนไลน์ของจีนอย่าง Trip.com พบว่ามียอดการค้นหา คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับ “ประเทศไทย” บนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ยังคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจำนวนถึง 8 ล้านรายเดินทางมาประเทศไทยในปีนี้ ภายหลังจากการประกาศดังกล่าว
เช่นเดียวกันกับช่วงเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา ที่รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายยกเว้นวีซ่าชั่วคราวสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เว็บไซต์ท่องเที่ยวและจองที่พักอย่าง อโกด้า (Agoda) รายงานว่ามียอดการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับ “ประเทศไทย” เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ซึ่งตอกย้ำความสำคัญของประเทศอินเดียในฐานะหนึ่งในตลาดนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทย
นอกจากผลประโยชน์ระยะสั้นที่เกิดขึ้น การวิเคราะห์เชิงลึกยังแสดงให้เห็นถึงโอกาสอีกมากมายที่ทั้งสองประเทศจะมอบให้ ไม่เพียงต่อประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ให้บริการที่พักทั่วโลกอีกด้วย
อีกทั้ง ยังพบรายงานที่สอดคล้อง อย่าง Changing Traveller Report 2023 ของ SiteMinder ซึ่งเป็นข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวมากกว่า 10,000 คนทั่วโลก โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและอินเดียถึง 1,600 คน พบว่า 77% ของนักเดินทางชาวจีน และ 78% ของนักเดินทางชาวอินเดีย มี ‘แนวโน้ม’ หรือ ‘มีโอกาสมาก’ ที่จะท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศในอีก 12 เดือนข้างหน้า เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่ที่ 57%
อย่างไรเสีย จากการวิเคราะห์ข้อมูล แสดงให้เห็นว่าประสบการณ์แปลกใหม่ระหว่างการเข้าพักเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดีย มากกว่านักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ
โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณครึ่งหนึ่งเลือกที่จะกลับมาใหม่หากที่พักมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึงสองเท่า และเมื่อนักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์การเข้าพักที่ “แตกต่าง” มากขึ้น
ขณะ เรื่องของราคาของสถานที่พักก็จะมีความหมายน้อยลงไปเรื่อยๆ ทุกปี โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียถึง 2 ใน 3 กล่าวว่า "ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม" (เช่น อาหารและเครื่องดื่ม สปา หรือการจัดงาน) ปัจจุบันมีความสำคัญมากกว่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวอินเดียวางแผนที่จะใช้เวลาในสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าประเทศอื่นๆ โดยคาดว่าความต้องการประสบการณ์ที่แปลกใหม่นี้จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
"ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมที่พักทั่วโลก ซึ่งผู้ประกอบการโรงแรมต้องเตรียมพร้อมในการเปิดรับโอกาสที่เกิดขึ้น ไม่เพียงปริมาณเช็กอินที่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ควรเตรียมรับมือกับพฤติกรรมและความต้องการของนักเดินทางจะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมให้ดีขึ้นเช่นกัน"
ที่มา : SiteMinder
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney