นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยหลังเป็นประธานเพื่อขับเคลื่อนไผ่เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายให้ส่งเสริมการปลูกไผ่ เพื่อรองรับความต้องการในจีน หลังที่รัฐบาลจีนประกาศส่งเสริมการใช้ไผ่ ทดแทนการใช้พลาสติก เพื่อลดโลกมลพิษ โดยตลาดไผ่ในจีนคาดว่าปี 68 จะมีมูลค่า 700,000 ล้านหยวน และปี 78 จะเติบโต 1 ล้านล้านหยวน
ทั้งนี้ การส่งเสริมให้ปลูกไผ่จะดำเนินการภายใต้โครงการ “ไผ่ กล้า ธรรม” นำร่อง 10 ชุมชน ดำเนินการส่งเสริมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกจนถึงส่งออกและขายผลผลิตได้ โครงการระยะเริ่มแรกตั้งเป้าไว้ที่ 10,000 ไร่ ใน 10 ตำบล จะสามารถเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรตำบลละ 80 ล้านบาท จากการศึกษา หากเกษตรกรขายผลผลิต อาทิ หน่อไม้ ในระดับต้นน้ำ จะทำให้มีกำไร 35,008 บาทต่อไร่
“ในระดับกลางน้ำ จะส่งเสริมในการแปรรูป อาทิ ไม้ไผ่อัด ตะเกียบ บรรจุภัณฑ์เส้นใย เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง และแท่งชีวมวล เป็นต้น ในขั้นตอนการแปรรูป จะมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจให้เกษตรกร ส่วนปลายน้ำ ประเทศไทยจะได้พลังงานสะอาด สิ่งแวดล้อมดีขึ้น โดยแต่ละชุมชนที่มีการดำเนินโครงการจะมีโรงไฟฟ้าชุมชนไว้บริการพลังงานให้ชุมชน หรือหากเหลือก็ขายได้ และยังสามารถขายคาร์บอนเครดิตได้อีกทางหนึ่ง”
สำหรับไผ่เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ มีการดำเนินงานโดยกระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินงานในรายละเอียดของพื้นต้นแบบ ที่จะส่งเสริมการปลูกไผ่เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ภายใต้กรอบแนวคิดไม่ใช้งบประมาณรัฐบาล แต่เป็นรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐบาล เอกชน และประชาชน (PPPP model) โดยรัฐบาลสนับสนุนการปลูกไผ่ ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนกิจการแปรรูปไผ่.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่