Economics
Thailand Econ
เศรษฐา จี้ เร่ง กนง.ประชุมนัดพิเศษ ลดดอกเบี้ย GPD โต 1.9% อยู่ใน “ระยะวิกฤติ”
Date Time: 20 ก.พ. 2567 12:30 น.
“Summary“
- เศรษฐา จี้ กนง.ประชุมนัดพิเศษ เร่งพิจารณาลดดอกเบี้ย ไม่รอเดือนเมษายน หลัง GPD โตต่ำกว่าคาด 1.9% ย้ำจุดยืนเศรษฐกิจอยู่ในภาวะวิกฤติ ต้องลดภาระหนี้ครัวเรือน ดันเศรษฐกิจไปต่อ
ธนาคารแห่งประเทศไทยยังโดนกระแสกดดันให้ลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตั้งแสดงความคิดเห็นผ่าน X (ทวิตเตอร์) เกี่ยวกับประเด็นตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าคาดที่ 1.9% โดยระบุว่า
“ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯ วันนี้ บ่งบอกถึงสถานะของเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในภาวะ critical stage (ระยะวิกฤติ) ท่านเลขาฯ เองก็เห็นด้วยกับการที่ควรต้องมีการลดดอกเบี้ย อยากขอวิงวอนให้ กนง. เรียกประชุมคณะกรรมการเป็นการเร่งด่วน เพื่อพิจารณาการลดดอกเบี้ย โดยไม่คอยถึงการประชุม scheduled (กำหนด) ไว้”
โดยก่อนนี้เมื่อเวลา 23.04 น. ก็ได้แสดงความเห็นต่อกรณีที่ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาใช้มาตรการทางการเงิน อย่างการลดดอกเบี้ย เพื่อลดภาระหนี้ครัวเรือนและ SME ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปข้างหน้า
ระบุว่า “น่าจะพูดก่อนการประชุม กนง. อาทิตย์ที่แล้วนะครับ ไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์ของพูดตอนนี้เพื่ออะไร หรือบอกว่าผมทำหน้าที่ของผมแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะทำตั้งแต่ก่อนหน้านี้?”
การแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวถึง 2 ครั้ง เป็นการสะท้อนจุดยืนในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของ ธปท. เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะวิกฤติ การบรรเทาภาระหนี้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไข การดำเนินมาตรการทางการเงินและการคลังจึงต้องสอดรับกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า
ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่สภาพัฒน์รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ไตรมาสที่ 4/2566 โดยเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าคาดที่ 1.9% ชะลอตัวลงจากการขยายตัว 2.5% ในปี 2565 และต่ำกว่าที่ สศช. ประเมินไว้ว่าตลอดทั้งปีนี้จะขยายตัว 2.5% ซึ่งเป็นผลมาจากภาคการส่งออกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการลดลงของการใช้จ่ายรัฐบาล และการลงทุนภาครัฐ พร้อมปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ ปี 2567 เหลือ 2.2-3.2% (ไม่รวมผลดิจิทัลวอลเล็ต) จากเดิมที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้ในระดับ 2.7-3.7%
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
Author