รัฐสั่งเร่งใช้จ่าย-ประชุมสัมมนา อัดงบปี 66 ไปพลาง 9.2 แสนล้านพยุงเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบรายงานผลการใช้จ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ไปพลางก่อน และมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ 2566 ไปพลางก่อน มีสาระสำคัญว่าตามที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ประกาศใช้บังคับไม่ทันวันเริ่มต้นปีงบประมาณ 2567 (1 ต.ค.2566) สำนักงบประมาณได้มีการขออนุมัติหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้งบประมาณประจำปี 2566 ไปพลางก่อน โดยมีการกำหนดวงเงินไว้ 1,806,913.44 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ (ต.ค.-ธ.ค.66) มีผลการเบิกจ่ายแล้ว 946,076.95 ล้านบาท คิดเป็น 52.36% จากวงเงินทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายในช่วงไตรมาสที่ 1 อยู่ 3.42%

ทั้งนี้ ยังมีเม็ดเงินที่เหลืออยู่อีก 928,254.41 ล้านบาท เพื่อช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ โดยสรุปการเร่งรัดการเบิกจ่าย ดังนี้ 1.ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของปีงบประมาณ 2566 ให้เบิกจ่ายอย่างมีนัยสำคัญได้ภายในไตรมาสที่ 2 (ม.ค.-มี.ค.2567) โดยเฉพาะรายจ่ายที่ก่อหนี้ผูกพันแล้ว สำหรับเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีที่อยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแล้วให้เร่งรัดการก่อหนี้และเบิกจ่ายโดยเร็ว

2.กำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการให้สอดคล้องกับเป้าหมายภาพรวมประเทศ และใช้เป็นแนวทางใช้จ่ายเมื่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ประกาศใช้บังคับ 3.ให้เร่งรัดจัดฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ประจำปีงบประมาณ 2566 ไปพลางก่อน โดยปรับแผนการดำเนินงานและใช้จ่ายภายในไตรมาสที่ 2 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ 4.ให้พิจารณากำหนดเวลาการส่งมอบงานให้รวดเร็วขึ้นและเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง 5.ให้กระทรวงการคลังกำหนดแนวปฏิบัติและซักซ้อมความเข้าใจการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างได้รวดเร็ว และเป็นการกระตุ้นให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจตลอดจนสามารถก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายได้ หลัง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ให้มีผลบังคับใช้ได้ทันที.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่