เซ็นทรัล รับ ค้าปลีกไทยน่าห่วง เสี่ยงโตต่ำ GDP รอบ 10 ปี หากไม่มี “มาตรการรัฐ” ช่วย

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เซ็นทรัล รับ ค้าปลีกไทยน่าห่วง เสี่ยงโตต่ำ GDP รอบ 10 ปี หากไม่มี “มาตรการรัฐ” ช่วย

Date Time: 12 ก.พ. 2567 14:36 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • ค้าปลีกปี 2567 ยังน่าห่วง คาดว่าจะเติบโตตามจีดีพี (GDP) หากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยภาพรวมตลาดค้าปลีกปี 2567 จะอยู่ที่ 4.4 ล้านล้านบาท มีการขยายตัวประมาณ 2-3% ด้าน เซ็นทรัล รีเทล ตั้งเป้าแผนงานปี 67 มีรายได้เติบโต 9-11% EBITDA เติบโต 15-17% และใช้งบลงทุน 22,000-24,000 ล้านบาท

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า ภาพรวมตลาดค้าปลีกในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตตามจีดีพี (GDP) หากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ประชาชนมีการใช้จ่ายมากขึ้น พร้อมกับเร่งผลักดันมาตรการด้านการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศมากขึ้น ตามที่ได้ประกาศไว้ แต่หากไม่เป็นดังที่วางไว้ ก็จะมีโอกาสที่ตลาดจะเติบโตต่ำกว่า GDP ได้ 

ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล หากเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อน ตลาดค้าปลีกโตมากกว่า GDP 2-3 เท่า แต่มีเพียงปี 2566 ที่ผ่านมาที่ตลาดเติบโตเท่ากับ GDP เนื่องจากค้าปลีก ค้าส่ง และบริการ ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ช่วยการจ้างงานในประเทศ ดังนั้นหากโตน้อยก็จะมีผลต่อ GDP 

ทั้งนี้ ประเมินภาพรวมตลาดค้าปลีกปี 2567 อยู่ที่ 4.4 ล้านล้านบาท มีการขยายตัวประมาณ 2-3% ส่วน CRC ยังคงโฟกัสที่ 3 ตลาดเช่นเดิม นั่นคือ อิตาลี ไทย และเวียดนาม

ขณะเดียวกัน จากวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence ที่เซ็นทรัล รีเทล วางไว้ ได้ถูกต่อยอดมาเป็นแผนงานปี 2567 โดยมีเป้าหมายผลประกอบการ คือ รายได้เติบโต 9-11% EBITDA เติบโต 15-17% และใช้งบลงทุน 22,000-24,000 ล้านบาท ไม่รวม M&A โดยมีแผนการดำเนินงานในปี 2567 ดังนี้ 

  1. กลุ่มแฟชั่น : การพัฒนาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แฟล็กชิปสโตร์ สาขาชิดลม สู่การเป็น World Class Luxury Destination รวมถึงการขยายสาขาเพิ่ม 2 แห่ง พร้อมรีโนเวตและอัปเกรดห้างอีก 4 แห่ง โดยตั้งเป้าในปี 2024 จะมี Department stores รวม 88 แห่ง ตลอดจนมีแผนเพิ่มแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และนำแบรนด์ในไทยขยายไปยังเวียดนาม

  2. กลุ่มฟู้ด : เดินหน้าขยาย GO Wholesale อีก 7 สาขา เพื่อให้เป็นจุดหมายใหม่ The New Choice For All สำหรับผู้ประกอบการทุกคน พร้อมตั้งเป้าขยายรวม 40 สาขา ภายใน 5 ปี และ 11 สาขา ภายในปีนี้ พร้อมกับก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 Omni B2B ในกลุ่ม HoReCa นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขา Tops รวม 10 สาขาในไทย สำหรับประเทศเวียดนาม มีแผนเปิด ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! 3 สาขา และ go! (มินิ โก!) อีก 9 สาขา ซึ่งถือเป็น Proven Format ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

  3. กลุ่มฮาร์ดไลน์ : เดินหน้าขยายสาขาไทวัสดุ 9 สาขา พร้อมรีโนเวตอีก 4 สาขา และได้ทรานส์ฟอร์มเหงียนคิมในเวียดนามให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยรวมจะมีทั้งหมด 90 สาขา

  4. กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ : ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีการพัฒนาและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม มีแผนขยายอีก 3 สาขา โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 ด้วยจำนวน 42 สาขา ครอบคลุม 42 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ 

ปี 2567 นี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้วางกลยุทธ์บนคอนเซปต์ของ Leading Excellence and Advancing Sustainability คือ การบริหารธุรกิจทุกกลุ่มของเซ็นทรัล รีเทล ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ด้วยผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม (Excellence Performance) ในทุกมิติ รวมทั้งมีการวางกลยุทธ์เรื่องการสร้างความยั่งยืนให้เข้มข้นไปอีกขั้น


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ