เรียกได้ว่ายังคงร้อนแรงไม่มีอะไรต้าน สวนกระแสแนวโน้มเศรษฐกิจสุดๆ สำหรับภาพรวมตลาด Luxury Residence ของเมืองไทย หลัง แสนสิริ อสังหาฯ เบอร์ยักษ์ ประกาศข่าว Sold Out! โครงการ บูก้าน พระราม 9-เหม่งจ๋าย ภายในวันเดียวที่เปิดขาย แม้จะมีการตั้งราคาขายไว้แพงถึงยูนิตละ 70-180 ล้านบาท สะท้อนคนพร้อมจ่าย-กำลังซื้อสูง ในสังคมไทยอย่างน่าจับตามอง
“ศรีอำไพ รัตนมยูร” ประธานผู้บริหารสายงานการตลาดบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เผยว่า โครงการ BuGaan Rama 9-Meng Jai (บูก้าน พระราม 9-เหม่งจ๋าย) เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ อยู่ภายใต้การพัฒนาของ Sansiri Luxury Collection
ที่ทั้งโครงการมีเพียง 8 ยูนิต 8 ครอบครัว เป็นอสังหาฯ ระดับ Rare item อย่างแท้จริง ที่มีมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่บนทำเล สุดไพร์มย่านพระราม 9 ระดับราคา 70-180 ล้านบาท เท่ากับสร้างสถิติใหม่ล่าสุดให้กับวงการอสังหาฯ ลักชัวรี่ไทย เพราะประสบความสำเร็จ Sold Out! ทันทีภายใน 1 วัน ที่เปิดให้ชมบ้านตัวอย่าง
สำหรับกลุ่มลูกค้านั้น ผู้บริหารแสนสิริ เผยว่า ที่ผ่านมาแสนสิริเปิดตัวเอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ ภายใต้แบรนด์ BuGaan (บูก้าน) มาแล้วถึง 3 โครงการ 3 ทำเลไพร์ม และ 3 ดีไซน์ที่แตกต่าง กับจุดเด่นนิยามใหม่ของบ้านที่สะท้อนตัวตน และรสนิยมผู้อยู่อาศัยผ่านสเปซและฟังก์ชัน เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่กลุ่ม Young Successor ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จนเป็นกลุ่ม HNWI (High Net Worth Individual) มีกำลังซื้อสูงมีคาแรกเตอร์ และรสนิยมการอยู่อาศัยที่ชัดเจน ต้องการบ้านที่มีเอกลักษณ์ กับสเปซที่มอบความส่วนตัวสูงสุด
ส่งผล แสนสิริ เตรียมเปิดเฟสใหม่โครงการ BuGaan ทั้ง 2 โลเคชัน 2 ดีไซน์ เจาะกลุ่มลูกค้าลักชัวรี่ที่แตกต่าง ได้แก่
สำหรับภาพรวมตลาด Luxury Residence ที่ระดับราคาขายต่อยูนิตมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป โครงการขนาดเล็กจำนวนยูนิตไม่มากนัก ในพื้นที่ใกล้เมือง และพื้นที่เมืองชั้นใน อย่างพื้นที่ตามแนวถนนสาทร นราธิวาสราชนครินทร์ สุขุมวิท พระราม 9 เป็นต้น ที่ผ่านมามีการเปิดตัว และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งปิดการขายไปหมดแล้ว เพราะตอบโจทย์กลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อ และไม่ต้องการอยู่นอกเมืองหรือชานเมือง เนื่องด้วยสถานที่ทำงาน หรือย่านธุรกิจอยู่ในพื้นที่เมืองชั้นใน ที่ตอบไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ
รวมถึงการที่บุตรหลานอาจจะกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาในพื้นที่เมืองชั้นใน ดังนั้นการซื้อบ้านระดับราคานี้ในทำเลหรือพื้นที่ที่การเดินทางสะดวก และได้บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มคนที่มีความพร้อมมาก
“เราพบว่าตลาดเอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ นี้ยังมีซัพพลายไม่มาก และจากการสำรวจแบบเจาะลึกในกลุ่มลูกค้าที่สนใจพบว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ มีกำลังซื้อจริง และมองหาที่อยู่อาศัยที่มีดีไซน์เอกลักษณ์ และรสนิยมในสังคมไพรเวท และใส่ใจในทุกดีเทลรายละเอียด”
สำหรับปี 2567 นี้ แสนสิริ เดินหน้ารุกขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเพิ่มสัดส่วนของโครงการบ้านลักชัวรี่ และซุปเปอร์ลักชัวรี่ เพื่อตอบโจทย์ดีมานด์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งแสนสิริมองเป็นโอกาส และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาท.