ตั้งเป้า 4 ปีเศรษฐกิจโตเฉลี่ย 5% "เศรษฐา" มอบนโยบายจัดทำงบประมาณปี 68

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ตั้งเป้า 4 ปีเศรษฐกิจโตเฉลี่ย 5% "เศรษฐา" มอบนโยบายจัดทำงบประมาณปี 68

Date Time: 13 ม.ค. 2567 05:45 น.

Summary

  • “เศรษฐา” มอบนโยบายจัดทำงบประมาณปี 2568 ลั่นมีเป้าหมายทำงานเป็นรูปธรรมให้ประชาชนสบายใจว่าภาษีถูกสร้างประโยชน์ให้ประเทศ ยืนยันทำเศรษฐกิจ 4 ปีโตเฉลี่ย 5% ดันนโยบายเรือธง “ดิจิทัล วอลเล็ต”ให้สำเร็จ ย้ำปีนี้เห็นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทแน่นอน ขอแรงหนุนเดินหน้าแลนด์บริดจ์

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (ต.ค.2567-ก.ย.2568) โดยมีคณะรัฐมนตรี ผบ.เหล่าทัพ รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วม Video Conference

โดยนายเศรษฐากล่าวตอนหนึ่งว่า นโยบายที่ดำเนินการภายใต้รัฐบาลนี้ จะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนสบายใจได้ว่าภาษีของพวกเค้าถูกใช้ในการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการเกษตร ช่วงที่ผ่านมาตนได้เดินหน้าเจรจาการค้า เพื่อเปิดตลาดใหม่ๆให้กับพี่น้องเกษตรกรทุกกลุ่ม ทั้งพืช และปศุสัตว์ ด้านการท่องเที่ยวถือเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญ

และรัฐบาลมีเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท มุ่งให้ไทยเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง และนำจุดเด่นของแต่ละพื้นที่มาใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น Hardware เช่น สถานที่ วัฒนธรรม อาหาร หรือเป็น Software ที่ใช้เรียกการจัดกิจกรรม Festival หรือ Event ต่างๆที่ประกอบกันเป็น Soft Power ของแต่ละพื้นที่ และต้องส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจมากขึ้น ให้มีการใช้สถานที่จัดประชุม เป็นเจ้าภาพแสดงสินค้า งานเทศกาลระดับโลกในประเทศไทยให้ได้

ขณะเดียวกัน รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางถนน ราง น้ำ และอากาศ และให้ความสำคัญ โครงการแลนด์บริดจ์ เปิดประตูการค้าสองฝั่งมหาสมุทรทางภาคใต้ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง การค้าและคมนาคมที่สำคัญ คาดว่าจะสร้างงาน 280,000 ตำแหน่ง คาดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) โตขึ้นปีละ 5.5%โครงการนี้มีประโยชน์ต่อประเทศมหาศาล ขอให้ทุกท่านช่วยกันสนับสนุน ผลักดันไปด้วยกัน จากนโยบายด้านเศรษฐกิจทั้งหมด ครอบคลุมทั้งการท่องเที่ยว การค้า การลงทุนการต่างประเทศ Soft Power โครงสร้างพื้นฐานต่างๆอีกส่วนหนึ่งที่อยากผลักดัน คือการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้สำเร็จ เป้าหมายยังชัดเจน ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาท ภายในปี 2570 โดยปีนี้จะต้องทำค่าแรงขั้นต่ำให้มากกว่า 400 บาทให้ได้

นายเศรษฐากล่าวว่า ความเป็นอยู่ของประชาชนจะต้องได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆในตลอดสมัยของรัฐบาลนี้ ทั้งรถไฟฟ้า น้ำประปา และสิ่งแวดล้อม อากาศสะอาด ด้านค่าโดยสารรถไฟฟ้าของประชาชน รัฐบาลมีนโยบายที่จะทำ “20 บาทตลอดสาย” ให้สำเร็จ ในปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีแดง ก็เหลือ 20 บาทแล้ว กระทรวงคมนาคมจะเดินหน้าพัฒนาระบบ Feeder ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าทั้งสองสายให้มากขึ้น และจะเดินหน้าทำส่วนอื่นให้สำเร็จ เพื่อทำให้ 20 บาทตลอดสายเกิดขึ้นได้จริง

นายเศรษฐากล่าวว่า รัฐบาลนี้จะต้องเดินหน้าแก้ไขกฎระเบียบ กฎหมาย ข้อจำกัดต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างเนื้อสร้างตัวของประชาชน การทำธุรกิจ การคิดค้นธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการทำสุราพื้นบ้าน ซึ่งจะกลายมาเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่ชุมชนจะสามารถชูจุดเด่นของตนเองได้ สนับสนุนการแข่งขันที่เป็นธรรม ทำให้คนตัวเล็กสามารถเติบโตได้ ขณะที่เรื่องการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย รัฐบาลนี้จะทำประชามติ เพื่อทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จ โดยไม่จุดชนวนความขัดแย้งในสังคม มุ่งหน้าทำให้ประเทศไทยมีหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งในที่สุด

นายกรัฐมนตรีเผยในด้านเศรษฐกิจ แม้ 4 เดือนที่ผ่านมาจะเป็นระยะเวลาที่ไม่นาน รัฐบาลก็ได้ดำเนินนโยบายหลายประการในงบประมาณไปพลางก่อน และอีกหลายนโยบายที่ได้ผลักดันโดยไม่ต้องใช้งบประมาณ ซึ่งนโยบายที่สำคัญด้านเศรษฐกิจจะครอบคลุม 8 กลุ่มย่อยด้วยกันได้แก่ พลังงาน เกษตร ท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน การดึงดูดการลงทุน การทูตเชิงรุก และการค้าชายแดน Soft Power และค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเป้าหมายยังชัดเจนเหมือนเดิม เศรษฐกิจประเทศไทย 4 ปีจะต้องโตเฉลี่ย 5% ให้ได้

“อย่างที่ทุกคนทราบว่าหนึ่งในนโยบายเรือธงของรัฐบาลนี้คือการทำดิจิทัลวอลเล็ตให้สำเร็จ แม้ว่าในวันนี้เราจะเดินหน้าออก พ.ร.บ.กู้เงินก็ตาม แต่ก็ขอให้ไม่ลืมที่จะตั้งงบประมาณเผื่อไว้ ในกรณีที่ต้องใช้พัฒนาและดำเนินโครงการด้วย แต่ขอให้ตั้งอย่างสมเหตุสมผล ในปีงบประมาณ 2568 การใช้จ่ายภาครัฐจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐบาลทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม”

นายเศรษฐากล่าวว่า นโยบายทั้งหมดของรัฐบาลที่กล่าวไปนั้นจะต้องอาศัยการทำงานบูรณาการกันเป็นอย่างมาก มีความเชื่อมโยงหลายส่วนการจัดทำงบประมาณ จะต้องขอให้สำนักงบประมาณช่วยคอยดูทั้งตัวชี้วัดงบประมาณที่ขอ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และต้องดูรายละเอียดเนื้อหาให้ถี่ถ้วนด้วยว่าตอบโจทย์ของรัฐบาลหรือไม่ ในปีงบประมาณ 68 จะเป็นการดำเนินการที่ต่อเนื่องจากปี 67 โดยช่วงเวลาการทำงานจะทับซ้อนกัน จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการ เพื่อผลักดันให้การจัดทำงบประมาณตอบโจทย์ความต้องการและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด และเพื่อให้หน่วยงานสามารถจัดทำคำของบประมาณที่สอดคล้องกับจุดเน้นตาม นโยบายของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จำนวน 142 ประเด็น สำนักงบประมาณ จึงอยู่ระหว่างดำเนินการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อ ปรับปรุงปฏิทินงบประมาณ โดยขยายระยะเวลาการจัดส่งคำขอได้ถึงวันที่ 2 ก.พ.

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า งบประมาณปี 2568 จะมีวงเงินรายจ่าย 3.591 ล้านล้านบาทรายรับ 2.899 ล้านล้านบาท ขาดดุล 692,000 ล้านบาท.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ