นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าผลประกอบการของ NT ในปี 2566 น่าจะมีกำไรได้ในระดับ 100 ล้านบาท แม้หักค่าใช้จ่ายภายใต้โครงการเกษียณก่อนอายุหรือเออร์ลี่รีไทร์แล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลใจ อยู่ในช่วงปี 2568 ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ ย่าน 850, 2100, 2300 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) จะสิ้นสุดลง ซึ่งจะทำให้รายได้จากธุรกิจบน 3 คลื่นนี้ซึ่งทำร่วมกับพันธมิตร กว่าปีละ 50,000 ล้านบาทหายไป
สิ่งที่จะเริ่มทำได้ทันที คือการปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งต้องการมืออาชีพเข้ามาช่วย ซึ่งจะรวมถึงการแตกหน่วยธุรกิจออกเป็นบริษัทจำกัด เริ่มจากธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินของ NT ที่มีอยู่ร่วม 200,000 ล้านบาท แยกตั้งบริษัทจำกัด (spin off) ขึ้นมาดูแลบริหารพื้นที่ เริ่มต้นจากอาคาร NT ริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านบางรัก ซึ่งส่วนหนี่งเป็นที่ตั้งของดาต้าเซ็นเตอร์ รวมทั้งที่ดินว่างใกล้ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน กว่า 70 ไร่ โดยโมเดลในการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาดูแลทรัพย์สินที่มีอยู่ มองรูปแบบเดียวกับบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ นอกจากนั้นยังมีแผนเพิ่มผลตอบแทนจากกระแสเงินสดของ NT ที่มีอยู่ 100,000 ล้านบาทให้งอกเงยขึ้น จากปัจจุบันมีผลตอบแทนราวปีละ 1% หรือราว 1,000 ล้านบาท หากขยับขึ้นมาได้เป็น 3% ก็จะได้เพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท
ด้าน พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT เปิดเผยในโอกาสครบรอบ 3 ปี NT ว่า การปรับโครงสร้างองค์กรจากการควบรวมกันระหว่างทีโอทีและแคท สำเร็จไปได้ราว 60% แล้ว.