นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กว่า 2.65 ล้านคน หรือประมาณ 379,830 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 35.5% โดยได้กำชับให้ ทอท. เตรียมรองรับการให้บริการในช่วงวันหยุดยาว ทั้งด้านการอำนวยความสะดวก ควบคู่ไปกับการเร่งแก้ปัญหาความหนาแน่นของผู้โดยสารผ่านการใช้ เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ให้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้มีความพร้อมบริการสอดคล้องกับปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาวตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว
ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า จำนวนผู้โดยสารระหว่างในช่วงวันที่ 1-15 ธ.ค.66 เพิ่มขึ้น 46.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 65 แต่หากเทียบกับช่วงก่อนโควิคปี 62 ผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลง 20.8% ทั้งนี้เป็นการลดลงที่น้อยที่สุดเทียบกับจำนวนผู้โดยสารก่อนโควิค ขณะที่จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้น 37.3% เมื่อเทียบกับปี 65 และลดลง 22.5% เมื่อเทียบจากปี 62 ส่วนจำนวนผู้โดยสารในประเทศลดลง 1.2% จำนวนเที่ยวบินในประเทศลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับปี 62 จำนวนเที่ยวบินที่ลดลงมากกว่าจำนวนผู้โดยสารแสดงให้เห็นอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ที่ดีขึ้นของผู้ประกอบการสายการบิน
สำหรับผู้โดยสารขาเข้าเส้นทางจีนก่อนนโยบาย Free Visa เฉลี่ยที่ 13,300 คนต่อวัน และหลังนโยบาย Free Visa โดยเฉพาะช่วงวันที่ 1-15 ธ.ค.66 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 21,300 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 60.1% ส่วนผู้โดยสารขาเข้าเส้นทางอินเดียเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญเช่นกันก่อน Free Visa เฉลี่ยที่ 5,100 คนต่อวันเพิ่มเป็น 6,500 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 27.5%
ส่วนภาพรวมผู้โดยสารของ ทอท.ในปีงบ ประมาณ 67 (ต.ค. 66 ถึง ก.ย. 67) ทั้ง 6 สนามบิน ประกอบด้วย สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) สนามบินภูเก็ต และสนามบินหาดใหญ่ ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการ 150 ล้านคน
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรม รอบเดือน พ.ย.66 จากผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 95 แห่ง ระหว่างวันที่ 11-27 พ.ย. พบว่า มีการเข้าพักอยู่ที่ 66% เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค.66 ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในช่วงเข้าฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซัน โดยโรงแรมที่มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติมากกว่า 50% คิดเป็น 73% และกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เข้าพักส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าเอเชียตะวันออกลาง และยุโรปตะวันตก คาดการณ์อัตราการเข้าพักเดือน ธ.ค. จะอยู่ที่ 69.7%
นายศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรม ไทยภาคใต้ กล่าวว่า อัตราการเข้าพักโรงแรมภาพรวมในจังหวัดภูเก็ตในช่วงพีคระหว่างวันที่ 20 ธ.ค.66-10 ม.ค.67 จะมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 100% หรือเพิ่มขึ้น 20-30% จากช่วงปกติของเดือน ธ.ค. 66-ม.ค. 67 ซึ่งไฮซีซันมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 75-80% ส่วนอัตราการเข้าพักช่วงเดือน ธ.ค.66 ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พังงา ปรับขึ้นมาจากเดือนก่อนหน้า 70% หรือเพิ่มขึ้นมา 10%
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตในช่วงเดือน พ.ย.66 ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวรัสเซีย จีน อินเดีย ออสเตรเลีย เยอรมนี คาซัคสถาน อังกฤษ มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ส่วนช่วงไฮซีซันหรือตั้งแต่เดือน ธ.ค.66- มี.ค.67 จะเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป สแกนดิเนเวีย ตะวันออกกลาง เข้ามาท่องเที่ยว ส่วนแนวโน้มของปี 67 โรงแรมริมหาดจะกลับมาเปิดรับลูกค่าครบทั้ง 100%
ขณะที่ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวในพื้นที่ฝั่งอ่าวไทยให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงที่มีคลื่นลมแรง อาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยว โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเตรียมพร้อม ทั้งเรื่องระบบสัญญาณเตือนภัย การกำกับดูแลจำนวนผู้โดยสารไม่ให้เกินอัตราที่กำหนด, การเตรียมชูชีพบนเรือและสภาพเรือให้พร้อมบริการ อย่าให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่มาทำลายภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่