นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องกระตุ้นการบริโภคในประเทศในช่วงต้นปีต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 2 ของปี 67 ด้วยมาตรการลดหย่อนภาษี “อีซี่ อี-รีซีท : Easy E-Receipt” สำหรับผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการซื้อสินค้าและบริการตามการใช้จ่ายจริงสูงสุด 50,000 บาทต่อคน จากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น โดยเริ่มวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.2567 ซึ่งขณะนี้กรมสรรพากรพยายามชักชวนให้ผู้ประกอบการทุกรายหันมาใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Tax เพราะสะดวกรวดเร็ว จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการใช้ระบบนี้กว่า 84%
สำหรับสาเหตุที่ต้องกระตุ้นการบริโภคในช่วงต้นปี 67 เนื่องจากเป็นช่วงที่งบประมาณประจำปี 2567 ล่าช้า คาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้เดือน พ.ค.67 ประกอบกับช่วงต้นปีเป็นช่วงที่คนเดินทางท่องเที่ยว รัฐบาลจึงต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการกระตุ้นการบริโภคให้มากที่สุด โดยคาดว่าจะเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 70,000 ล้านบาท ช่วยดันผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ให้เติบโตถึง 0.18% เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีมาตรการ และยังเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบฐานภาษีให้เข้ามาสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นด้วย ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการแล้ว 4,000 ราย มีช่องทางซื้อสินค้า 116,000 จุดทั่วประเทศ และกรมสรรพากรอยู่ระหว่างประสานผู้ประกอบการให้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น คาดว่าจะเกิน 10,000 รายแน่นอน
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สำหรับสินค้าและบริการที่ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 6 ประเภท ได้แก่ 1.ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ 2.ค่าซื้อยาสูบ 3.ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ 4.ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ 5.ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเตอร์เน็ต และ 6.ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้ยังสามารถเข้าร่วมโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาลได้ด้วย ถ้าเข้าเงื่อนไขของการแจกเงินดิจิทัล.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่