คอไวน์ได้เฮกันทั้งประเทศ เมื่อ คุณลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีความเหมาะสม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ คาดว่าจะสรุปเสนอ ครม.ได้ในเดือนธันวาคมนี้ ให้มีผลบังคับใช้เดือนมกราคม 2567 “เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้สึกว่า เมื่อมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งมีทั้งร้านอาหารดีๆ มีสตรีทฟู้ดราคาถูก ก็ควรจะต้องมีเครื่องดื่มที่มีราคาเหมาะสมด้วย ไม่ใช่ราคาลอยอยู่บนฟ้า ต้องทำให้ราคาจับต้องได้ ให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่า มาประเทศไทยแล้วเป็นสวรรค์ของการใช้ชีวิต กิน อยู่ ดื่ม ท่องเที่ยว”
ก็คือเป็น มาตรการเสริมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทย ที่ผมเห็นว่า มาถูกทาง ถูกเวลา มีข่าวว่า รมว.คลังได้เสนอ ครม.ไปเมื่อวานนี้ 19 ธ.ค.แล้ว คงอนุมัติออกมาแล้ว
การลดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งนี้ จะเน้นการ ลดภาษีไวน์ และ สุราชุมชน ซึ่ง คุณลวรณ ปลัดกระทรวงการคลัง บอกว่า การลด ภาษีไวน์ ก็เพื่อให้มีราคาที่จับต้องได้ไม่ใช่แพงเกินคุณภาพ เช่นในปัจจุบัน การลดภาษีสุราชุมชน ก็เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน เหมือนในต่างประเทศ เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น ไปเมืองไหนก็ได้ดื่มเบียร์หรือสาเกของเมืองนั้น การปรับโครงสร้างภาษีแอลกอฮอล์ครั้งนี้ จะทำเป็นระยะยาว กระทรวงการคลังมองไปถึงเรื่องการลงทุนในธุรกิจหลายด้านที่จะมีเข้ามามากขึ้น
ก็ถือเป็นการ “มองไกล” ของ กระทรวงการคลัง ปัจจุบันธุรกิจเบียร์และสุราที่ผลิตในเมืองไทยก็มีมูลค่าราว 8 แสนล้านบาทแล้ว ถ้ามีธุรกิจไวน์และสุราชุมชนเข้ามาเพิ่ม ขนาดของธุรกิจแอลกอฮอล์ในไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านล้านบาทแน่นอน และไทยจะเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวประเภทที่ชอบกินดื่มและพักหรูไม่แพ้ชาติไหนแน่นอน
นอกจากลดภาษีไวน์แล้ว คุณลวรณ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังเสนอ ครม.ให้ยกเลิกการอนุญาตการจัดตั้งร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) ขาเข้าในทุกสนามบิน เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยที่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศ ให้เข้ามาจับจ่ายซื้อในประเทศมากขึ้น แทนการซื้อจากร้านค้าปลอดภาษีที่สนามบิน จะได้เกิดการใช้จ่ายในประเทศมากขึ้น คนที่จะได้รับอานิสงส์มากที่สุดก็คือ ร้านค้าในประเทศ เบื้องต้นทราบว่า ผู้ประกอบการยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับนโยบายของรัฐบาล
การลดภาษีนำเข้าไวน์ครั้งนี้ คุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จะมีการลดภาษีสรรพสามิตควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะทำให้ราคาไวน์ถูกลงไปอีกมาก
ปัจจุบันภาษีไวน์ของไทยถือว่าแพงระดับต้นๆของโลก ว่ากันว่าไวน์นำเข้าแต่ละขวดต้องเสียภาษีรวมกว่า 200% ของราคาไวน์ จึงทำให้ราคาไวน์ในเมืองไทยขายกันแพงมาก แพงเกินคุณภาพไวน์ ภาษีนำเข้าไวน์ในปัจจุบันอยู่ที่ 60% ของราคา ยังไม่รวมภาษีสรรพสามิต และภาษีอื่นๆอีก รวมกันแล้วก็น่าจะเกิน 100–200% ของราคาไวน์ที่ขายในเมืองนอกอย่างที่เขาว่ากัน จึงทำให้มีการหนีภาษีไวน์กันเป็นอุตสาหกรรมเลยทีเดียว และ มีการตั้งราคาไวน์นำเข้าต่ำกว่าราคาจริง ไวน์ระดับอรหันต์ใหม่ๆที่เพิ่งเปิดประมูล เมืองนอกขายขวดละ 2–3 หมื่นบาท แต่แจ้งนำเข้าราคาขวดละไม่กี่พันบาท เพื่อเสียภาษีถูกลง
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ไทยนำเข้าไวน์ปีละประมาณ 15 ล้านขวด แต่มีการเสียภาษีไม่ถึง 50% อีกกว่า 50% ไม่เสียภาษี ผู้นำเข้าส่วนใหญ่ก็เป็น คนขายไวน์นี่แหละ ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน รวมทั้ง เศรษฐี นักการเมือง ข้าราชการระดับบิ๊ก ที่ซื้อเข้ามาดื่ม
การลดภาษีไวน์ครั้งนี้ แหล่งข่าวกระทรวงการคลังบอกว่า จะช่วยให้เก็บภาษีไวน์เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว จากภาษีนำเข้าที่จะลดลงมาก จนไม่คุ้มที่จะหนีภาษีอีกต่อไป ลดภาษีลงมาก แต่รัฐกลับเก็บภาษีได้มากกว่าตอนภาษีแพง เป็นอีกเรื่องแปลกของรัฐบาลแบบไทยไทย.
“ลม เปลี่ยนทิศ”