ธนาคารกลางฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority: HKMA) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดตัวบริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR ระหว่างฮ่องกงและประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่เดินทางระหว่างฮ่องกงและประเทศไทย สามารถเข้าถึงบริการชำระเงินรวดเร็ว ปลอดภัย และเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น
โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ทั้งการผลักดันจากธนาคารกลาง คือ HKMA และ ธปท. ผู้ให้บริการระบบการชำระเงิน ได้แก่ Hong Kong Interbank Clearing Limited (HKICL) และ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ (NITMX) ผู้ให้บริการชำระดุลระหว่างประเทศ ได้แก่ HSBC Hong Kong และธนาคารกรุงเทพ
รวมทั้งผู้ให้บริการชำระเงินหลายรายที่เข้าร่วมให้บริการแอปพลิเคชัน ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ 7 แห่ง และ Non-bank 2 แห่งของฮ่องกง และธนาคารพาณิชย์ 3 แห่งของไทย และอีกหลายแห่งของทั้งสองฝ่ายที่ร่วมให้บริการ QR แก่ร้านค้า โดยมีรายละเอียดดังนี้
ใช้แอปพลิเคชันการชำระเงินของผู้ให้บริการต่อไปนี้
1. ธนาคารกรุงเทพ
2. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
3. ธนาคารกรุงไทย
ใช้แอปพลิเคชันการชำระเงินของผู้ให้บริการต่อไปนี้
1. Bank of China (Hong Kong) Limited
2. Bank of Communications (Hong Kong) Limited
3. Bank of East Asia, Limited (The)
4. Citibank (Hong Kong) Limited
5. Fubon Bank (Hong Kong) Limited
6. Hang Seng Bank, Limited
7. HKT Payment Limited
8. Hong Kong and Shanghai Banking Corporation Limited (The)
9. Octopus Cards Limited
บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR ดังกล่าว จะทำให้ผู้ที่เดินทางระหว่างฮ่องกงและประเทศไทย สามารถทำรายการชำระเงินกับร้านค้าได้ง่ายขึ้น
โดยผู้ใช้บริการที่มาจากฮ่องกง สามารถใช้แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือสแกน QR มาตรฐานของไทย (Thai QR code) และผู้ใช้บริการที่มาจากไทยสามารถใช้แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือสแกน QR ของฮ่องกง (Hong Kong FPS QR code) เพื่อชำระเงินกับร้านค้าที่มี QR code ทำให้ผู้ใช้บริการมีช่องทางชำระเงินที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ ขณะที่ร้านค้าจะได้รับเงินค่าสินค้าในทันที ทั้งยังเป็นการสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจของฮ่องกงและประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ ธนาคารกลางทั้ง 2 แห่ง เชื่อว่าการเชื่อมโยงการชำระเงินข้ามพรมแดนครั้งนี้ ให้ทางเลือกการชำระเงินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสม และจะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือด้านนวัตกรรมทางการเงินในภูมิภาคมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต