น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค.66 ว่า อยู่ในทิศทางฟื้นตัวตามการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาคบริการชะลอลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำลดลง หลังเร่งไปมากในเดือนก่อน สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลาง
“เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวดีขึ้น ตามเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนในเกือบทุกหมวดสินค้าหลัก ยกเว้นการใช้จ่ายในภาคบริการที่ปรับลดลงจากโรงแรมและภัตตาคารสอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่ลดลง โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 7.3% จากระยะเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.7% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับเพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนก่อน การลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มขึ้นจากยอดจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศและการนำเข้าสินค้าทุน”
ในเดือน ต.ค.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน 1.4% ตามนักท่องเที่ยวรัสเซียหลังเร่งไปในช่วงก่อนหน้า และนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่ชะลอการเดินทางเพื่อรอวันหยุดพิเศษในเดือน พ.ย. หลังจากที่ทางการได้ประกาศเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวบางสัญชาติปรับดีขึ้น อาทิ จีน ที่ส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากมาตรการยกเว้นการยื่นวีซ่า และกลุ่มยุโรป โดยเฉพาะสหราชอาณาจักรและเยอรมนี สำหรับรายรับภาคการท่องเที่ยวชะลอลงจากเดือนก่อน สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวและอัตราการเข้าพักแรมที่ลดลง
มูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน 1.4% จากการส่งออกเครื่องประดับไปฮ่องกง หลังเร่งไปในเดือนก่อนที่มีงานจัดแสดงสินค้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จากการส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ลดลงตามรอบการส่งมอบสินค้า และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลงตามการส่งออกไปสหรัฐฯ และฮ่องกง และสินค้าเกษตร ตามการส่งออกผลไม้ไปจีน สอดคล้องกับดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลง 2.1% จากเดือนก่อนหน้า.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่