ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์ดิ่งครั้งแรกรอบปี

น.ส.อัจจนา ล่ำซำ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบแบบจำลองและวิเคราะห์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ฐานะระบบธนาคารพาณิชย์ยังมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องสูง แต่สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 66 หดตัว 0.9% จากระยะเดียวกันปีก่อน จากการชำระคืนหนี้ของภาคธุรกิจ หลังออกตราสารหนี้เพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ขณะที่เอสเอ็มอี ที่กู้ในโครงการสินเชื่อผ่อนปรนของรัฐบาลถึงเวลาครบชำระคืนหนี้ โดยคืนหนี้ 130,000 ล้านบาท รวมทั้งธนาคารระมัดระวังปล่อยสินเชื่อเพราะมีแนวโน้มเป็นหนี้เสียมากขึ้น และบริหารจัดการคุณภาพหนี้ของธนาคาร โดยการขายหนี้รายย่อยส่วนหนึ่ง

“การหดตัวของสินเชื่อรวมปีนี้ เป็นการหดตัวครั้งแรก ขณะที่หากคิดเฉพาะสินเชื่อเอสเอ็มอี พบว่า ลดลงต่อเนื่อง 5 ไตรมาส ส่วนคุณภาพสินเชื่อด้อยลงเล็กน้อย จากหนี้ด้อยคุณภาพในส่วนสินเชื่ออุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นในทุกหมวด รวมทั้งสินเชื่อภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังบริหารจัดการคุณภาพหนี้ และช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL หรือ Stage 3) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 494,600 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อสินเชื่อรวม 2.70% จาก 2.67% ในไตรมาสก่อน ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อที่ต้องจับตาเสี่ยงด้านเครดิตเป็นพิเศษ ต่อสินเชื่อรวม (SICR หรือ Stage 2) อยู่ที่ 5.84% จากไตรมาสก่อนที่ 6.08%”

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามความสามารถชำระหนี้ของเอสเอ็มอี และครัวเรือนที่ยังมีฐานะการเงินเปราะบาง โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไตรมาส 2 ทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่ 90.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพี 88% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน

ส่วนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธปท. กล่าวว่า ลูกหนี้ดอกเบี้ยคงที่ไม่ได้รับผลกระทบ แต่จะกระทบลูกหนี้ดอกเบี้ยลอยตัว โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน ซึ่งค่างวด 1 งวด จะถูกหักดอกเบี้ยสูงขึ้น หักเงินต้นลดลง ธปท.สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ดูแลลูกหนี้ส่วนนี้แล้ว โดยอาจปรับค่างวดส่ง หรือปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกัน “ลูกค้าผ่อนส่งบ้าน ที่ระบุว่า ผ่อนหมื่นกว่าบาท แต่ตัดต้น 5 บาทนั้น เป็นการปรับลดค่าผ่อนรายงวดในช่วงโควิด เป็นกรณีพิเศษ แต่ปกติที่ไม่ได้ลดค่างวด แม้ดอกเบี้ยขึ้นก็ยังตัดต้นในอัตราพอสมควร ไม่น้อยขนาดนั้น ซึ่งให้ธนาคารพาณิชย์ไปดูแลแล้ว”.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่