นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ร่วมกิจกรรมพบหารือภาคเอกชนไทย ในระหว่างการไปประชุมเอเปกที่สหรัฐฯ โดยนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนภาคเอกชนกล่าวข้อเสนอแนะให้รัฐบาลนำนโยบายประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น สิงคโปร์ ดูไบ เวียดนาม และอินโดนีเซียมาเป็นแนวทาง โดยเสนอให้ปรับนโยบายสิทธิประโยชน์ทางภาษี ให้ทำศูนย์รวมบริการแบบครบวงจร หรือ all services center โดยเน้นย้ำธุรกิจประเภทเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อดึงดูดนักลงทุน และให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้
“นายกฯเห็นด้วยที่จะนำมาปรับใช้ แต่ไทยมีข้อจำกัด เพราะบางนโยบายต้องใช้เงิน และ 8-9 ปีที่ผ่านมาไทยไม่มีการลงนามข้อตกลง FTA ทำให้เสียโอกาสด้านการลงทุน ซึ่งจะเห็นว่าการย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ได้เป็นประเด็นปัญหาเพียงเรื่องค่าแรง แต่เพราะไทยไม่มีความตกลง FTA รัฐบาลนี้มีการผลักดันเจรจาความตกลง FTA อย่างจริงจัง และในโอกาสนี้ นายกฯได้ยืนยันกับนักลงทุนสหรัฐฯ ด้วยว่ารัฐบาลมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ สร้างบรรยากาศการลงทุนที่เอื้ออํานวย โดยพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นของเอกชนเพื่อสนับสนุนให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนและทำธุรกิจในประเทศไทย”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่