นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ดำเนินงานภายใต้กรอบนโยบาย โปร่งใส ตรวจสอบได้ ปฏิบัติงานด้วยความสุจริต ปราศจากการทุจริตโดยเฉพาะเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือส่วยสติกเกอร์ทางหลวง ของกรมทางหลวง (ทล.) ที่ได้เน้นย้ำว่า ช่วงที่ตนเป็น รมว.คมนาคมจะต้องไม่มีการทุจริต หรือมีส่วยสติกเกอร์ทางหลวงเด็ดขาด ซึ่งตนได้สั่งการให้ ทล. รวมถึงกรมทางหลวงชนบท (ทช.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทำงานเชิงรุกหมั่นตรวจตรากวดขัน และบังคับใช้กฎหมายกับรถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันปราบปราม แก้ปัญหาการทุจริต อีกทั้งเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทางหลวงแผ่นดิน และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย สร้างความเดือดร้อนต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ทำให้รัฐต้องใช้งบจำนวนมากมาซ่อมบำรุงรักษาถนนด้วย
ขณะเดียวกันต้องบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานอื่นให้ความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจสอบจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินที่แอบเข้าไปใช้เส้นทางในพื้นที่ที่ทำให้เกิดความเสียหายกับพื้นผิวจราจรหรือโครงสร้างทางพิเศษ นอกจากนี้ ให้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในกระบวนการติดตามตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งมีความแม่นยำและช่วยลดดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ ปิดช่องโหว่การทุจริตคอร์รัปชันได้อีกด้วย
สำหรับแนวทางแก้ปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างยั่งยืนนั้น ทล.ได้มีมาตรการเข้มงวดจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างต่อเนื่อง ผ่านศูนย์ควบคุมเครือข่ายส่วนกลาง สามารถส่งข้อมูลออนไลน์แบบเรียลไทม์ เพื่อตรวจสอบ 24 ชั่วโมง และได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เรื่องระบบ GPS เพื่อติดตามรถบรรทุกที่คาดว่าจะมีน้ำหนักเกิน จากนั้นส่งข้อมูลการต่อเติมรถบรรทุกให้ ขบ.จัดการตามกฎหมาย รวมถึงมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ประจำสถานีทั่วประเทศ ครั้งละไม่เกิน 1 ปี เพื่อลดความคุ้นเคยของเจ้าหน้าที่กับผู้ประกอบการขนส่งเพื่อป้องกันการทุจริต อีกทั้งนำเทคโนโลยีระบบชั่งน้ำหนักยานพาหนะขณะเคลื่อนที่ (WIM) มาใช้ รวมทั้งสนับสนุนงบเบี้ยเลี้ยงเพื่อเป็นขวัญกำลังใจลดปัญหาทุจริต.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่